เจนเซ่น หวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ของสหรัฐอเมริกา ร่วมงานฉลองตรุษจีนที่สำนักงานสาขาของบริษัทในกรุงปักกิ่ง พร้อมแสดงความมุ่งมั่นของอินวิเดียที่มีต่อจีน แม้อินวิเดียได้รับผลกระทบหนักจากมาตรการทิ้งทวนของประธานาธิบดี โจ ไบเดน
ในงานฉลองตรุษจีนซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (19 ม.ค.) ซีอีโอสัญชาติอเมริกันซึ่งมีถิ่นกำเนิดในไต้หวันผู้นี้กล่าวขอบคุณทีมงานที่จงรักภักดีต่อบริษัท พร้อมกับเน้นย้ำว่า ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมาอินวิเดียมีส่วนร่วมในการพัฒนาความทันสมัยของจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดยิ่งใหญ่ที่สุดของบริษัทและเป็นหนึ่งในประเทศยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก อินวิเดียภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศนี้
หวง ระบุด้วยว่า นักพัฒนาในจีนประมาณ 1 ล้าน 5 แสนคนใช้แพลตฟอร์ม CUDA ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของอินวิเดียสำหรับสร้างโปรแกรมที่ทำงานบนหน่วยประมวลผลกราฟิก อีกทั้งอินวิเดียยังทำงานร่วมกับบริษัทสตาร์ทอัปมากกว่า 3,000 แห่งเพื่อ "ช่วยสร้างอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในจีน”
นอกจากนั้น เขายังกล่าวว่า พนักงานอินวิเดียในจีนเพิ่มจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจนมีเกือบ 4,000 คน โดยมีอัตราการลาออก 0.9% ต่อปี เมื่อเทียบกับ 2% ทั่วโลก ซึ่งต่ำสุดในบรรดาการดำเนินงานของอินวิเดียในทั่วโลก
“เกือบพูดได้ว่า หากคุณร่วมงานกับอินวิเดีย คุณจะแก่ไปพร้อมกับผม”
“และผมก็ภูมิใจมากๆ กับสิ่งนั้น” นายหวงกล่าว
ความพยายามสร้างขวัญกำลังใจแก่พนักงานในจีนมีขึ้นในขณะที่อินวิเดียตกอยู่ในสภาพติดกับดักท่ามกลางการแข่งขันทางเทคโนโลยีร้อนระอุระหว่างสหรัฐฯ กับจีน โดยนอกจากเจอพิษมาตรการทิ้งทวนแล้ว อินวิเดียยังถูกรัฐบาลจีนประกาศสอบสวนการผูกขาดตลาด เมื่อเดือนที่แล้วอีกด้วย
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า นายหวงจะเข้าพบหารือกับเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลจีนระหว่างการมาเยือน ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2567 หรือไม่ โดยเขามาเยือนจีนอย่างเงียบๆ แต่กลับเป็นจุดสนใจอย่างกว้างขวาง เพราะมีขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ในวันที่ 20 มกราคม ในขณะที่ซีอีโอบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ รวมถึงทิม คุก แห่งแอปเปิล เจฟฟ์ เบซอส ผู้ร่วมก่อตั้ง Amazon.com และอีลอน มัสก์ แห่งเทสลาต่างเตรียมมาร่วมงาน
ถ้าดูในแง่ของรายได้ จีนเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของอินวิเดีย รองจากสหรัฐฯ และสิงคโปร์ ตามรายงานทางการเงินล่าสุดของบริษัท โดยในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 27 ตุลาคม 2567 อินวิเดียมีรายได้ 5,400 ล้านดอลลาร์ในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง เพิ่มขึ้น 34% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
อินวิเดียคัดค้านมาตรการใหม่ที่รัฐบาลไบเดนประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจะจำกัดการส่งออกชิปเอไอขั้นสูงไปยังประเทศส่วนใหญ่ และปิดกั้นการจำหน่ายให้จีนอย่างสิ้นเชิง โดยบริษัทชี้ว่า เป็นการกระทำที่เลยเถิด ซึ่งจะทำลายความได้เปรียบทางเทคโนโลยีที่ได้มาอย่างยากลำบากของอเมริกาไปอย่างน่าเสียดาย
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์