xs
xsm
sm
md
lg

เทรนด์ใหม่! วัยรุ่นจีนแห่ดื่ม "เครื่องดื่มผัก" ซูเปอร์ฟู้ดครองตลาดจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในปี 2567 หนึ่งในวัตถุดิบที่มาแรงสุดในวงการเครื่องดื่มจีนคือ "ผักเคล" (Kale) หรือผักคะน้าใบหยิก ผักที่เคยถูกมองว่า "แพงและกินยาก" กลายเป็นส่วนผสมยอดนิยมในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะในช่วงโอลิมปิกที่ผ่านมา ติ๊กต็อกเคยรายงานว่าเพียง 10 วันแรกหลังเปิดตัว "ขวดไฟเบอร์ผักเคล" (羽衣纤体瓶) ของ Hey Tea (喜茶) ก็ขายไปได้กว่า 1.6 ล้านขวด และภายใน 1 เดือน มีการใช้ผักเคลมากกว่า 100,000 กิโลกรัม

ความนิยมของผักเคลทำให้แบรนด์เครื่องดื่มหลายเจ้าหันมาใช้ผักเป็นส่วนผสมหลัก เช่น Hey Tea ออกเครื่องดื่มใหม่ เช่น "ขวดไฟเบอร์ผักเคล+แตงกวา", "ขวดไฟเบอร์บีทรูท", และ "ขวดไฟเบอร์พิเศษที่รวมผักเคลและอโวคาโด", Nayuki (奈雪的茶) เปิดตัวเครื่องดื่ม "ผักเคล + กีวี", ChaBaiDao (茶百道) วางขายเครื่องดื่ม "ล้างพิษต้นอ่อนข้าวสาลี" ที่ใช้ข้าวสาลีสดผสมผลไม้ เป็นต้น

แม้แต่ร้านหม้อไฟ เช่น Banu (巴奴毛肚火锅) และ Yangfang Shuanrou (阳坊涮肉) ยังออกเมนูน้ำผักเคลผสมแอปเปิล เพื่อช่วยให้ร่างกายสดชื่นหลังรับประทานอาหารมัน

วัตถุดิบที่ใช้ในเครื่องดื่มเหล่านี้ เช่น ผักเคล บีทรูท อโวคาโด ข้าวสาลี และแครอท จัดอยู่ในกลุ่ม "ซูเปอร์ฟู้ด" ซึ่งหมายถึงอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่าปกติ เทรนด์นี้ได้รับความนิยมเพราะคนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น


ข้อมูลจาก McKinsey ระบุว่า 62% ของผู้บริโภคชาวจีนให้ความสำคัญกับสุขภาพ ซึ่งสูงกว่าชาวอเมริกัน (41%) และชาวอังกฤษ (29%)

แบรนด์เครื่องดื่มจีนจึงแข่งขันกันทำตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยเพิ่มส่วนผสมที่เป็น "ซูเปอร์ฟู้ด" และใช้กลยุทธ์ "0% น้ำตาล / 0% ไขมัน / 0% ครีมเทียม" เช่น Hey Tea ออกมาตรฐาน "4 จริง 7 ศูนย์" ที่เน้นใช้วัตถุดิบธรรมชาติ, ChaBaiDao พัฒนาเมนูชานมสดแท้ ไม่มีครีมเทียมหรือไขมันทรานส์, Nayuki เปิดตัวแคมเปญ "สุขภาพด่วน" ด้วยเครื่องดื่มที่ไม่มีน้ำตาลแต่ใช้วัตถุดิบธรรมชาติแทน

แม้จะมีเทรนด์เครื่องดื่มใหม่ ๆ แต่ตลาดเครื่องดื่มในจีนก็เติบโตช้าลง ข้อมูลจาก iiMedia Research ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา อัตราการเติบโตของตลาดชานมจีนลดลงเหลือตัวเลขหลักเดียว และคาดว่าปี 2568 จะลดลงไปอีก


ที่ผ่านมาแบรนด์เครื่องดื่มเคยพยายามสร้างความแตกต่างด้วยวัตถุดิบแปลกใหม่ เช่น นมสดแทนครีมเทียม, ชาผงแทนชาสด, ท็อปปิ้งแปลกใหม่อย่างเช่น เชอร์รี่ ลูกหม่อน และมะขามป้อม แต่ตอนนี้ตลาดเครื่องดื่มเริ่มขาดไอเดียใหม่ ๆ ทำให้ต้องหันมาใช้ผักและซูเปอร์ฟู้ดแทน

ผู้เชี่ยวชาญในวงการชี้ว่า "เครื่องดื่มที่ใช้ซูเปอร์ฟู้ดมีต้นทุนสูงกว่า และสามารถเพิ่มราคาขายได้" ซึ่งเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ช่วยให้ธุรกิจทำกำไรได้ดีขึ้น

แม้ว่าเครื่องดื่มจากผักและผลไม้จะเป็นกระแส แต่ความท้าทายสำคัญคือ ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ผักและผลไม้เป็นวัตถุดิบที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ ทำให้รสชาติและราคาผันผวน และรสชาติที่เข้าถึงยาก แม้ผักเคลจะมีประโยชน์ แต่รสขมของมันทำให้ไม่ใช่ทุกคนจะชอบดื่ม

ที่มา: 餐饮老板内参


กำลังโหลดความคิดเห็น