"จาง ซูชิง" สาวชาวเมืองชิงเต่า เกิดปี 2532 ปัจจุบันเป็นนักธุรกิจและเจ้าของบริษัทด้านการตลาด เธอกลายเป็นที่รู้จักหลังจากโพสต์คลิปในปี 2566 เปิดเผยว่า เธอเป็นเจ้าของ "เกาะอุนะบะ" (屋那霸岛) ในจังหวัดโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 700,000 ตารางเมตร
หลังจากข่าวนี้แพร่กระจาย หลายคนสงสัยว่าเธอมาจากครอบครัวเศรษฐีหรือไม่ จางออกมาปฏิเสธและเผยว่าเธอเติบโตมาในครอบครัวธรรมดา พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เธอยังเด็ก และเธอถูกเลี้ยงดูโดยแม่เพียงลำพัง
"ฉันไม่ใช่ลูกคนรวยค่ะ ครอบครัวฉันธรรมดามาก แต่ฉันมีโอกาสไปเรียนที่ญี่ปุ่นและได้พบกับอดีตสามีของฉัน คุณหม่า เขาเป็นลูกครึ่งจีน-ญี่ปุ่น เรียนจบจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง และมีธุรกิจครอบครัวเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์"
เกาะอุนะบะเคยเป็นของนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นที่มีปัญหาทางการเงิน เดิมทีบริษัทโรงแรมหรูจากมัลดีฟส์ "Soneva" วางแผนซื้อเกาะเพื่อพัฒนาเป็นรีสอร์ตสุดหรู และได้จ่ายเงินมัดจำล่วงหน้ากว่า 100 ล้านหยวน (ประมาณ 500 ล้านบาท) แต่เจ้าของเกาะกลับนำเงินไปใช้หนี้ส่วนตัวและมีปัญหาทางกฎหมาย ทำให้เกาะถูกประกาศขายทอดตลาดในปี 2562
ในช่วงเวลาดังกล่าว จางและสามีของเธอใช้โอกาสนี้เจรจากับเจ้าของเดิม โดยช่วยชำระหนี้บางส่วนและได้รับสิทธิซื้อเกาะในเดือนธันวาคม 2563
หลังจากกลายเป็นเจ้าของเกาะแล้ว เธอเผยว่า "ยังไม่มีแผนพัฒนาใหญ่โต" โดยปัจจุบันเกาะยังคงเป็นเกาะร้างที่มีน้ำทะเลใสสะอาด และในอดีตเคยมีชุมชนอาศัยอยู่
"ฉันยังไม่อยากให้เกาะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์ อยากให้มันคงความเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด"
ปีนี้เธอมีแผนพาพนักงานของบริษัทไปจัด "กิจกรรมทีมบิลดิ้ง" ที่เกาะในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม
"เราไม่ได้คิดจะปิดเกาะให้เป็นพื้นที่ส่วนตัว ถ้าใครอยากมาเที่ยวก็สามารถมาได้ ฉันไม่ได้กั้นพื้นที่หรือห้ามเข้า"
จางเปิดเผยว่า เธอเริ่มต้นจากศูนย์ และใช้เวลา 10 ปี ในการสร้างธุรกิจของตัวเอง หลังจากแต่งงานและใช้ชีวิตในญี่ปุ่นอยู่หลายปี เธอกลับมาที่จีนและเปิดร้านอาหารเล็กๆ ซึ่งกลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
"ฉันเคยเปิดร้านข้าวแกงกะหรี่ในชิงเต่า เริ่มต้นจากร้านเล็กๆ ที่ฉันต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 ไปจ่ายตลาดเอง จนกระทั่งสามารถขยายสาขาได้ถึง 30 แห่ง"
เธอยังเปิดร้านหม้อไฟและร้านความงามอีกหลายแห่ง ทำรายได้สูงสุดถึง 100 ล้านหยวน (ประมาณ 500 ล้านบาท) ในปีเดียว อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดวิกฤตโควิด-19 ธุรกิจของเธอได้รับผลกระทบอย่างหนัก และเธอต้องปรับตัวโดยหันมาทำธุรกิจด้านการตลาดออนไลน์
แม้ต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่เธอไม่ยอมแพ้ และปัจจุบันก็สามารถฟื้นตัวกลับมาได้อีกครั้ง
แม้ว่าจางจะหย่ากับอดีตสามีแล้ว แต่เธอเผยว่า ทั้งคู่ยังคงทำธุรกิจร่วมกัน และดูแลลูกชายวัย 9 ขวบด้วยกัน
"เราคุยกันและตัดสินใจว่าการเป็นเพื่อนร่วมงานและหุ้นส่วนทางธุรกิจอาจเหมาะกับเรามากกว่าการเป็นสามีภรรยา"
ปัจจุบันเธอรับผิดชอบธุรกิจของตัวเองที่จีน ขณะที่อดีตสามีของเธอทำธุรกิจที่ญี่ปุ่น
แม้ว่าเธอจะยังไม่มีแผนพัฒนาเกาะในตอนนี้ แต่หากมีนักลงทุนที่เหมาะสมเธอก็อาจพิจารณา
"ฉันไม่รีบขายหรือพัฒนาเกาะ ถ้ามีโอกาสดีๆ และเป็นแผนที่สามารถรักษาสิ่งแวดล้อมของเกาะได้ ฉันอาจจะพิจารณา แต่ถ้ายังไม่มี ฉันก็จะเก็บเกาะนี้ไว้ให้รุ่นลูกหลานต่อไป"
เรื่องราวของจาง ซูชิง ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการ "ซื้อเกาะ" แต่เป็นเรื่องราวของ "ผู้หญิงที่สร้างทุกอย่างขึ้นมาด้วยตัวเอง" จากเด็กหญิงที่เติบโตมากับแม่เพียงลำพัง สู่การเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และในที่สุดได้เป็นเจ้าของเกาะของตัวเอง
เธอพิสูจน์ให้เห็นว่า "ความฝันไม่ได้เป็นแค่เรื่องของคนรวย" แต่เป็นของ "ทุกคนที่กล้าลงมือทำ"
ที่มา: 半岛官网 (Bandao News)