บรรดาบริษัทของจีนต่างรีบกักตุนอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ ทำให้การนำเข้าวงจรรวม (IC) เพิ่มขึ้นเป็นเลข 2 หลักในปีที่แล้ว ซึ่งมีมูลค่าการนำเข้ามากกว่าการนำเข้าน้ำมันดิบเลยทีเดียว
จีนนำเข้าวงจรรวม หรือไมโครชิปทั้งสิ้น 549,200 ชิ้นในปี 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.6 จากปีก่อนหน้า รวมมูลค่าการนำเข้าประจำปี 385,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.4 จากปีก่อนหน้า ตามข้อมูลของสำนักงานศุลกากรจีน
ในขณะที่การนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในปี 2567 มีมูลค่า 325,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การเร่งรีบซื้อชิปอย่างมโหฬารตอกย้ำถึงความวิตกกังวลของจีนท่ามกลางการแข่งขันทางเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่เข้มข้นขึ้น และเป็นการกักตุนเสบียงก่อนที่มาตรการจำกัดไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงของสหรัฐฯ รอบใหม่จะออกมา ซึ่งคาดว่ารัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะประกาศทิ้งทวนก่อนพ้นวาระการบริหารประเทศในวันที่ 20 มกราคม
แล้วก็เป็นไปตามคาด โดยรัฐบาลไบเดนได้เสนอมาตรการจำกัดการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ขั้นสูงเมื่อวันจันทร์ (13 ม.ค.) เรียกว่ากฎระเบียบชั่วคราวครั้งสุดท้ายว่าด้วยการแพร่กระจายเอไอ (Interim Final Rule on AI diffusion) ซึ่งเป็นการประกาศครั้งสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้เพื่ออุดช่องโหว่ของมาตรการที่รัฐบาลไบเดนเคยประกาศมาแล้วหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2565 จนถึงเดือนตุลาคมปี 2566 อันเป็นความพยายามที่จะสกัดกั้นไม่ให้จีนพัฒนากองทัพและเทคโนโลยีขั้นสูง
มาตรการครั้งสุดท้ายนี้มีการแบ่งประเทศเป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกเป็นชาติพันธมิตรที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ โดยสามารถซื้อชิปและเทคโนโลยีเอไอขั้นสูงจากสหรัฐฯ ได้ กลุ่มที่ 2 มีหลายชาติ รวมถึงจีนและรัสเซีย ซึ่งไม่สามารถซื้อชิปเอไอขั้นสูงจากสหรัฐฯ ได้อยู่แล้ว และจะยิ่งถูกจำกัดมากขึ้นในการเข้าถึงโมเดลเอไอแบบปิดส่วนใหญ่ ส่วนกลุ่มที่ 3 ครอบคลุมชาติส่วนใหญ่ในโลก ซึ่งมิได้เป็นทั้งพันธมิตรแข็งแกร่งของสหรัฐฯ หรือเป็นศัตรู เช่น เม็กซิโก โปรตุเกส และอิสราเอล โดยจะมีการกำหนดจำนวนชิปที่สามารถซื้อได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ชาติฝ่ายตรงข้ามกับสหรัฐฯ เช่น จีน และรัสเซียซื้อชิปเอไอขั้นสูงจากชาติเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ ยังไม่ให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับมาตรการทิ้งทวนของไบเดน และตามขั้นตอนของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กฎระเบียบต่างๆ จะไม่มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 120 วัน ซึ่งให้ไว้สำหรับการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกฎระเบียบที่เสนอ ดังนั้นทรัมป์จึงมีเวลาไตร่ตรองและนี่อาจเป็นบททดสอบแรกเกี่ยวกับนโยบายจีนสำหรับประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ / ซีเอ็นเอ็น