เรื่องราวของ จ้าวอวี่หนิง สาววัย 25 ปี ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย เธอเคยเผชิญความล้มเหลวในการสอบเข้าปริญญาโท แต่ด้วยความกล้าหาญที่จะเปลี่ยนเส้นทางชีวิต จ้าวอวี่หนิงได้ค้นพบคุณค่าใหม่ในบทบาท เจ้าหน้าที่บริการในฝ่ายรักษาความปลอดภัย ซึ่งทำให้เธอเติบโตทั้งในหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว
หลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรีในปี 2564 ที่มณฑลซานซี จ้าวอวี่หนิงทำงานในบ้านเกิดและเตรียมสอบเข้าปริญญาโทอย่างหนักหน่วง เธอหวังจะได้เรียนในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง แต่ในปี 2566 ผลสอบกลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ความล้มเหลวครั้งนี้สร้างความเสียใจอย่างยิ่ง แต่เธอตัดสินใจมองหาหนทางใหม่เพื่อเติมเต็มความฝัน
"ฉันอยากให้เวลากับตัวเองเพื่อยอมรับความล้มเหลว และคิดถึงทางเลือกใหม่" เธอกล่าว และในช่วงเวลานั้นเอง เพื่อนของเธอได้แนะนำให้สมัครงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริการของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เธอมองว่านี่เป็นโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับสถานที่ที่เธอใฝ่ฝัน แม้ในรูปแบบที่แตกต่าง
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 จ้าวอวี่หนิงได้รับการว่าจ้างในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่บริการด้านทะเบียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานฝ่ายรักษาความปลอดภัย เธอรับหน้าที่ช่วยเหลือนักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัยในการจัดการเอกสารสำคัญ เช่น การย้ายทะเบียนบ้าน การเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัว และเอกสารเกี่ยวกับการแต่งงาน
"ฉันรู้สึกตื่นเต้นและประหม่ามากในวันแรกที่สวมเครื่องแบบ" เธอกล่าว เครื่องแบบนี้ไม่เพียงเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเธอ แต่ยังมอบความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ เธอใช้เวลาในช่วงทดลองงานศึกษากระบวนการทำงานอย่างละเอียด และเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงานที่มีประสบการณ์
หนึ่งในงานที่ยากที่สุดของจ้าวอวี่หนิงคือการตอบคำถามทางโทรศัพท์จากนักศึกษาและบุคลากร ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับกระบวนการที่ซับซ้อน หากไม่มีความรู้และความเข้าใจในงานอย่างลึกซึ้ง อาจตอบคำถามได้ไม่ครบถ้วน เธอจึงตั้งใจฟังและศึกษาวิธีการแก้ปัญหาจากเพื่อนร่วมงาน พร้อมกับตรวจสอบข้อมูลที่เธอยังไม่เชี่ยวชาญ
ในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี เธอสามารถจัดการงานทุกอย่างได้อย่างคล่องตัว และในปี 2567 เธอได้รับรางวัล "เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยอดเยี่ยม" จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ถือเป็นรางวัลที่ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเธอ
จ้าวอวี่หนิงมองว่างานของเธอเป็นการช่วยเหลือบุคลากรและนักศึกษาในช่วงเวลาสำคัญของชีวิต เช่น การช่วยจัดเตรียมเอกสารสำหรับการแต่งงาน หรือการตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน หนึ่งในกรณีที่น่าประทับใจคือ การช่วยเหลือนักศึกษาคนหนึ่งที่ต้องการเอกสารด่วนเพื่อนำไปใช้รักษาคุณแม่ที่ป่วยหนัก
เธอกล่าวว่า "เมื่อได้ช่วยคนอื่นในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ฉันรู้สึกว่าการทำงานนี้ไม่ได้เป็นแค่หน้าที่ แต่มันคือการสร้างความหมายให้กับชีวิตของฉัน"
นอกจากงานหลัก จ้าวอวี่หนิงยังใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยปักกิ่งให้คุ้มค่า เธอเข้าร่วมกิจกรรมมากมาย เช่น การเล่นพิณจีน (พีผา) เธอฝึกซ้อมอย่างจริงจังจนสามารถแสดงในงานสำคัญ เช่น คอนเสิร์ตในหอสมุดแห่งชาติ การเรียนศิลปะการต่อสู้ เธอได้เข้าร่วมชมรมศิลปะการต่อสู้และคว้ารางวัลรองชนะเลิศในการแข่งขันของมหาวิทยาลัย การเต้นลาติน และการเป็นพิธีกรในกิจกรรมต่าง ๆ
เธอกล่าวว่า "ทุกกิจกรรมที่ฉันทำในมหาวิทยาลัยนี้ไม่เพียงช่วยให้ฉันพัฒนาตัวเอง แต่ยังทำให้ฉันค้นพบว่าฉันสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คิด"
ในปี 2568 จ้าวอวี่หนิงวางแผนที่จะพัฒนาตัวเองเพิ่มเติม เช่น การเรียนภาษาอังกฤษ การฝึกฝนทักษะการพูดในที่สาธารณะ และการเรียนรู้เกี่ยวกับสื่อออนไลน์ เธอยังคงมองหาหนทางในการเติมเต็มชีวิตและใช้โอกาสที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งมอบให้
"แม้ฉันจะเข้ามาที่นี่ในฐานะเจ้าหน้าที่ แต่ในใจฉันยังคงเป็นนักเรียนที่พร้อมเรียนรู้เสมอ"
เรื่องราวของจ้าวอวี่หนิงสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการยอมรับความล้มเหลวและการมองหาโอกาสใหม่ แม้เส้นทางที่เธอเลือกอาจแตกต่างจากความฝันเดิม แต่เธอก็พบความสุขและความหมายในสิ่งที่ทำ
"มหาวิทยาลัยปักกิ่งได้มอบโอกาสและความหวังให้ฉัน และฉันจะตอบแทนด้วยการทำหน้าที่ของฉันให้ดีที่สุด" เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ที่มา: 大象新闻