โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล
เมื่อปี 2024 ที่เพิ่งผ่านมาต้องบอกว่าเป็นปีที่จีนเปิดประเทศต้อนรับต่างชาติอย่างขยันขันแข็ง มีการให้ฟรีวีซ่าฝ่ายเดียวกับหลายประเทศ จากการตัดสินใจของรัฐบาลจีนดังกล่าวชี้ชัดว่า หลังโควิด-19 จีนต้องการฟื้นฟูกิจการภายในและต่างประเทศแบบเต็มสูบ จีนเปิดรับชาวต่างชาติทั้งในแง่ของการลงทุนทำธุรกิจ การมาศึกษาในประเทศจีน รวมถึงการท่องเที่ยวจีน หลังจากที่ไทยฟรีวีซ่าให้จีนได้ไม่นาน ทางการจีนก็ประกาศฟรีวีซ่าให้หลายประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียน
หลังจากที่คนไทยสามารถเดินทางเข้าจีนโดยไม่ต้องยื่นขอวีซ่า ก็มีนักท่องเที่ยวไทยจำนวนมากเลือกไปท่องเที่ยวที่จีน ทำให้จีนกำลังกลายเป็นประเทศเป้าหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวไทยอันดับสอง รองจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผู้เขียนต้องยอมรับว่า จีนมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งจริงๆ ด้วยประเทศที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ความหลากหลายของภูมิประเทศ อาหารการกินและวัฒนธรรมหลากหลาย อีกทั้งในหลายเมืองระดับรองๆของจีนยังมีทัศนียภาพธรรมชาติสวยงาม ต้นทุนการท่องเที่ยวยังไม่สูงมากนัก มีความน่าดึงดูดและมีศักยภาพการเติบโตได้อีกมาก
ผู้เขียนมองว่าจีนพยายามอย่างมากที่จะยกระดับการท่องเที่ยวในประเทศสู่ระดับนานาชาติ ต่างจากเมื่อก่อนที่ไม่ค่อยสนใจนักท่องเที่ยวต่างประเทศเท่าใดนัก เน้นหนักแต่การท่องเที่ยวภายในประเทศของชาวจีน วัดได้จากระบบการเงินการธนาคารจีนในปัจจุบันเชื่อมโยงกับระบบของต่างประเทศมากขึ้น อำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติในด้านของการใช้จ่ายระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในจีนมากขึ้น การฟรีวีซ่าให้หลายประเทศเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวนับเป็นวิธีที่ทรงประสิทธิภาพ ค่ายสื่อจีนพาดหัวรายงานข่าว อย่างเช่น "แรงดึงดูดของการท่องเที่ยวขาเข้าจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นแรงกระตุ้นสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ" นั่นก็แสดงว่าการท่องเที่ยวขาเข้าจีนกำลังจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีน
เมื่อวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานบริหารการตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติของจีนได้เผยแพร่ข้อมูลสถิติระบุว่า ในช่วงวันหยุดปีใหม่ที่ผ่านมา หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศจีนเผยปริมาณการเข้าออกประเทศของผู้คนทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติ รวมทั้งสิ้น 1.8 ล้านคน/เที่ยว เพิ่มขึ้น 13.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศจีนเพิ่มขึ้น 33.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ในปี 2024 ทั้งปีการเดินทางโดยรถไฟจีน-ลาวได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ด่านผ่านแดนที่สถานีรถไฟโมฮานในฝั่งจีน มีขบวนรถไฟเข้าออกประเทศกว่า 7,900 ขบวน และมีผู้โดยสารเข้าออกประเทศกว่า 301,000 คน จาก 100 ประเทศทั่วโลก โดยรถไฟโดยสารระหว่างประเทศจีน-ลาวกลายเป็นตัวเลือกอันดับแรกของนักท่องเที่ยวทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติที่เดินทางไปมาระหว่างจีนและลาว โยงถึงประเทศอื่นในอาเซียน เนื่องจากมีความคุ้มค่า สะดวกสบายและประหยัดเวลา
สถานีตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินเทียนจินในปี 2024 ได้ตรวจสอบผู้โดยสารเข้าออกประเทศกว่า 1.01 ล้านคน เพิ่มขึ้น 35.8% เมื่อเทียบกับปี 2023 และรองรับเที่ยวบินเข้าออกประเทศเกือบ 8,000 เที่ยว เพิ่มขึ้นประมาณ 24% สร้างสถิติสูงสุดในรอบ 5 ปีของสนามบินเทียนจิน ในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 จำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่จีนผ่านสนามบินเทียนจินอยู่ที่กว่า 53,000 คน เพิ่มขึ้น 15.2% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก ทั้งนี้มีชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้นที่เดินทางมายังจีนผ่านเทียนจินเพื่อท่องเที่ยว ทำธุรกิจ เยี่ยมครอบครัวและเพื่อน ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองหางโจว ในปี 2024 มีปริมาณผู้โดยสารเข้าออกประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยสถานีตรวจคนเข้าเมืองที่เมืองหางโจวมีผู้โดยสารกว่า 4.7 ล้านคน เพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน
ฝั่งของเซี่ยงไฮ้ หนึ่งในเมืองที่ชาวต่างชาตินิยมไปเที่ยวสูงสุด ตลอดทั้งปี 2024 ต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้วกว่า 6 ล้านคน เซี่ยงไฮ้กำลังปรับเปลี่ยนทรัพยากรในเมืองให้กลายเป็นทรัพยากรสำหรับการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม นครเซี่ยงไฮ้ผุดโครงการ “ทัวร์ครึ่งวันสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเปลี่ยนเครื่องในเซี่ยงไฮ้” ซึ่งเริ่มในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 โครงการนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวนานาชาติหลายพันคนที่สนใจและตั้งใจกลับมาเยือนจีนอีกครั้ง บัตรเติมเงินอเนกประสงค์ “Shanghai Pass” ที่เปิดตัวใหม่รองรับการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น เทศกาลท่องเที่ยวเซี่ยงไฮ้ การแข่งขันฟอร์มูล่าวันชิงแชมป์โลก (F1) รายการ China Grand Prix และกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม การกีฬา และการท่องเที่ยวอื่นๆ ทำให้นครเซี่ยงไฮ้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นอกจากนี้ การแนะนำเส้นทางการท่องเที่ยวที่ปรับปรุงใหม่ ได้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลากหลายได้ เช่น นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาถึงเซี่ยงไฮ้และยังเดินทางต่อไปยังเมืองอื่นๆ โดยรอบที่อยู่ใกล้กัน ทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์เมืองโดยรอบของเซี่ยงไฮ้ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
นายกาเบรียล วาเลเรียนโน ตัวแทนหน่วยงานท่องเที่ยวของสหรัฐฯ ได้มาสำรวจตลาดท่องเที่ยวในเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า “ด้วยการที่จีนปรับปรุงความสะดวกในการเข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง ปลายทางอย่างปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ซีอาน และฉงชิ่ง จึงถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถสัมผัสความมีเอกลักษณ์ของแต่ละเมือง และทำความเข้าใจเกี่ยวกับจีนได้ลึกซึ้งและครอบคลุมมากขึ้น”
เนื่องจากจีนได้ปรับปรุงนโยบายการยกเว้นวีซ่าอย่างต่อเนื่อง ยกระดับประสิทธิภาพขั้นตอนขาเข้าประเทศ สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยกเลิกการจองล่วงหน้า มาตรการและบริการเหล่านี้ทำให้ “China Travel” มีความน่าดึงดูดเพิ่มมากขึ้น และลักษณะที่โดดเด่นของการเดินทางเข้าประเทศจีนของกลุ่มนักท่องเที่ยวในช่วงนี้คือ ความนิยมเดินทางแบบอิสระ นอกจากการท่องเที่ยวในเมืองใหญ่เมืองดังๆ แล้ว ยังเลือกจุดหมายปลายทางที่ไม่ใช่สถานที่ยอดนิยมทั่วไป และมุ่งเน้นประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตท้องถิ่น คือการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจีนมีความโดดเด่นและได้รับความสนใจ
ก่อนโควิดในปี 2019 รายได้จากภาคการท่องเที่ยวของจีนคิดเป็นประมาณเกือบ 10% ของจีดีพีประเทศ ซึ่งหลังจากผลกระทบจากโควิด-19 รายได้จากการท่องเที่ยวของจีนหดหายไปอย่างมาก และในขณะนี้อยู่ในช่วงของการฟื้นตัว จีนจึงตั้งเป้าหมายใหม่คือ “ชูโรงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง
นายหมิง ชิ่งจง ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจีน กล่าวว่า “ปัจจุบันการท่องเที่ยวขาเข้าของจีนยังเผชิญปัญหา เช่น อัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่ยังถือว่าต่ำ สัดส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังน้อย โครงสร้างนักท่องเที่ยวที่ขาดความหลากหลาย เขาเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนระยะกลางและระยะยาวสำหรับการท่องเที่ยวขาเข้า โดยให้ความสำคัญกับตลาดแหล่งนักท่องเที่ยว นโยบายสนับสนุน การจัดวางอุตสาหกรรมและการพัฒนาบุคลากรที่มีแบบแผน ส่วนในด้านการประชาสัมพันธ์ ควรศึกษาแนวทางของกลุ่มประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น ประเทศไทยและออสเตรเลีย พร้อมทั้งปรับปรุงกลไกการส่งเสริมการท่องเที่ยวในต่างประเทศให้มีความสร้างสรรค์มากขึ้น อาจร่วมทุนกับบริษัทท่องเที่ยวในต่างประเทศเพื่อขยายตลาดจีนในต่างประเทศ ทั้งนี้ควรส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้นักท่องเที่ยว รวมถึงนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีรากฐานทางวัฒนธรรมและมีกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง ปรับปรุงบริการให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น”
จะเห็นได้ว่าจีนเริ่มมีสัญญาณการตื่นตัวในด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศให้ก้าวไปสู่ระดับสากล โดยพื้นฐานแล้วจีนมีจุดแข็งด้านทรัพยากรธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอยู่มาก เพียงแค่ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ดำเนินนโยบายการดึงดูดนักท่องเที่ยวขาเข้าที่จริงจัง ในครั้งนี้จีนพยายามจะจุดติดกระแส “China Travel” ขึ้นมาพร้อมกับยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและภาคบริการของประเทศ เพื่อจะเป็นหนึ่งอุตสาหกรรมที่ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ