xs
xsm
sm
md
lg

คนจีนหายตัวรายวัน! "หลุมดำ" ดูดนายแบบหายตัวอีก 1 ราย อีกรายเป็นหนุ่มช่างไฟก็หาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 สื่อจีนรายงานเหตุการณ์การสูญหายของ หยางเจ๋อฉี นายแบบชายชาวจีนวัย 25 ปี ที่เดินทางมาทำงานถ่ายทำละครในประเทศไทยและหายตัวไปในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2567 และสร้างความกังวลอย่างมากให้ครอบครัวและเพื่อนของเขา

หยางเจ๋อฉีเป็นคนล่าสุดในกรณีหลอกลวงแรงงานข้ามชาติที่มีความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ของ หวังซิง นักแสดงชายจีนที่ถูกขบวนการค้ามนุษย์ล่อลวงไปยังพม่าในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน

หยางเจ๋อฉีออกเดินทางจากสนามบินปักกิ่งในวันที่ 20 ธันวาคม 2567 เวลา 01.56 น. โดยเที่ยวบิน VZ3719 และลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิในกรุงเทพฯ เวลา 06.16 น. เมื่อถึงสนามบิน เขาได้ขึ้นรถยนต์ที่อ้างว่าเป็นของทีมงานถ่ายทำเพื่อออกจากสนามบิน จากนั้นเปลี่ยนรถอีกครั้งในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เส้นทางจาก GPS แสดงว่ารถพาเขาไปยังพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า

ในวันที่ 21 ธันวาคม หยางเจ๋อฉีส่งข้อความขอความช่วยเหลือถึงเพื่อนของเขา โดยระบุว่าเขาเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย แต่หลังจากนั้นไม่นาน โทรศัพท์ของเขาก็ถูกปิดการเชื่อมต่อ

โพสต์ขอความช่วยเหลือตามหาดาราหนุ่มบนโซเชียลมีเดียจีน
ต่อมาในวันที่ 29 ธันวาคม เขาสามารถติดต่อครอบครัวผ่านวิดีโอคอล โดยเขาปรากฏตัวในเสื้อผ้าสีดำ มีร่องรอยบาดเจ็บที่ใบหน้า และแสดงท่าทีเหนื่อยล้า แต่การสนทนานั้นกินเวลาเพียงสั้นๆ ก่อนโทรศัพท์จะถูกปิดไปอีกครั้ง

สาวแซ่ถัง นักแสดงหญิงชาวจีนที่เกือบตกเป็นเหยื่อในกรณีเดียวกัน เปิดเผยว่า เธอและหยางเจ๋อฉีสมัครเข้าร่วมงานผ่านประกาศของนายหน้าที่ถูกโพสต์ในกลุ่ม WeChat โดยอ้างว่าเป็นงานถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย นายหน้ารายนี้ระบุว่าจะมีค่าจ้างระหว่าง 16,000-20,000 หยวน (ประมาณ 77,000-96,000 บาท) สำหรับงาน 20 วัน

คุณถังกล่าวว่า เธอส่งเอกสารสมัครงานไปและได้รับแจ้งว่าผ่านการคัดเลือกเบื้องต้น แต่เนื่องจากเธอไม่ได้ติดตามข้อความเพิ่มเติมในช่วงวันหยุดปีใหม่ เธอจึงไม่ได้เดินทาง และภายหลังพบว่านี่คือแผนการหลอกลวง

เอกสารรับแจ้งความดาราหนุ่มหายตัวไปของสถานีตำรวจเมืองเป่าติ้ง
นายหน้าที่โพสต์ประกาศรับสมัครงานในกลุ่ม WeChat อ้างว่าได้รับการว่าจ้างจากผู้จัดงานชื่อ “Chole” โดยจ่ายเงินเพียง 100 หยวน (ประมาณ 480 บาท) เพื่อขอให้ช่วยแชร์ประกาศต่อ คุณถังยังตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มนายหน้าดังกล่าวอาจเป็นเครือข่ายเดียวกันกับกลุ่มที่หลอกลวงนักแสดงชายหวังซิง

เพื่อนของหยางเจ๋อฉีเปิดเผยว่ามีผู้ให้ข้อมูลว่าเคยพบหยางเจ๋อฉีในเขตเศรษฐกิจพิเศษเมียวดีของพม่า ซึ่งเขาและเหยื่อคนอื่นๆ ถูกควบคุมตัวและทำร้ายร่างกาย ข้อมูลนี้ทำให้ครอบครัวหวังว่าจะสามารถติดตามหาตัวเขาได้สำเร็จ

ประวัติการสนทนาของช่างไฟหนุ่ม บอกเล่าว่าได้ผ่านกระบวนการเข้าเมืองโดยมีชายในภาพอำนวยความสะดวก
ยังมีอีกกรณีที่หญิงชาวมณฑลเหอหนาน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เสี่ยวซุน ลูกชายวัย 21 ปีของเธอ หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2567 หลังเดินทางจากเมืองหางโจวมายังกรุงเทพฯ ตามคำชักชวนของนายหน้าที่อ้างว่าเป็นผู้จัดหางานในอุตสาหกรรมบันเทิง

เสี่ยวซุนทำงานเป็นช่างไฟในกองถ่ายภาพยนตร์ที่มณฑลเจ้อเจียง และเคยได้รับการติดต่อจากนายหน้าสองคนชื่อ จู และ เจ้า ทั้งคู่ได้แนะนำให้เสี่ยวซุนทำงานในภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในประเทศไทย โดยเสนองานที่ค่าตอบแทนสูงกว่าในจีน

ในคืนวันที่ 11 ธันวาคม 2567 เสี่ยวซุนออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติหางโจวมายังกรุงเทพฯ โดยเมื่อถึงสนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 12 ธันวาคม มีชายชาวไทยคนหนึ่งมารับตัวเขาขึ้นรถยนต์ รถคันดังกล่าวเดินทางไกลกว่า 300 กิโลเมตร ก่อนจะเปลี่ยนไปยังรถอีกคัน ซึ่งมีผู้โดยสารเป็นชายไทยอีกสองคน

ในช่วงแรก เธอยังสามารถติดต่อกับลูกชายได้ตามปกติ จนถึงเวลา 11.30 น. ของวันที่ 12 ธันวาคม หลังจากนั้น โทรศัพท์ของเขาก็ถูกปิดและไม่สามารถติดต่อได้อีก

จากข้อมูล GPS ที่ตรวจสอบได้ เส้นทางการเดินทางของเสี่ยวซุนพาเขาไปยังชายแดนไทย-พม่า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รู้จักกันว่าเป็นศูนย์กลางของขบวนการค้ามนุษย์และแรงงานผิดกฎหมาย

นอกจากนี้ เธอยังได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวซึ่งเป็นคนที่เคยถูกควบคุมตัวในพื้นที่เมียวดี ประเทศพม่า ซึ่งระบุว่ามีผู้ที่ลักษณะคล้ายเสี่ยวซุนถูกบังคับให้ทำงานอย่างไม่สมัครใจในเมียวดี

ประวัติการสนทนาแสดงภาพว่าไม่สามารถติดต่อหนุ่มช่างไฟได้
เธอได้รายงานการสูญหายของลูกชายต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในมณฑลเหอหนาน และยื่นคำร้องต่อสถานกงสุลใหญ่จีนในเชียงใหม่เพื่อประสานงานกับทางการไทยและพม่า

ขณะนี้ตำรวจไทยกำลังตรวจสอบเส้นทางการเดินทางของเสี่ยวซุน รวมถึงข้อมูลจากกล้องวงจรปิดและรถยนต์ที่รับตัวเขาหลังลงจากสนามบิน

กรณีของเสี่ยวซุนมีความคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ของ หวังซิง และ หยางเจ๋อฉี ที่ถูกหลอกให้เดินทางมาทำงานในไทย ก่อนจะถูกนำตัวต่อไปยังพม่า

การหลอกลวงดังกล่าวมักเริ่มต้นด้วยข้อเสนองานที่ให้ค่าตอบแทนสูง เช่น งานถ่ายภาพยนตร์ หรือซีรีส์ต่างประเทศ และมีการใช้เอกสารหรือข้อมูลปลอมในการโน้มน้าวเหยื่อ

กรณีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการหลอกลวงในอุตสาหกรรมบันเทิงระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการจัดหางานผ่านนายหน้าที่ไม่มีใบอนุญาต

ทางการจีนได้เตือนประชาชนให้ตรวจสอบข้อมูลนายจ้างอย่างละเอียดก่อนรับงาน และแนะนำให้ใช้บริการจากบริษัทที่มีชื่ออยู่ในรายชื่อที่ได้รับการอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์


กำลังโหลดความคิดเห็น