สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2568 "เจียเจีย" แฟนสาวของนักแสดงหนุ่มชาวจีน ที่ชื่อว่า "ซิงซิง" หรือ "หวังซิง" ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยเล่าว่า หวังซิงได้เดินทางไปชายแดนไทย-พม่าเพื่อเข้าร่วมกองถ่ายละคร และขาดการติดต่อไปตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2568 เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกในโลกออนไลน์ และได้รับความสนใจอย่างมากในจีน
ล่าสุด “ฟ่านหู่” นักแสดงชาวจีนอีกรายหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยประสบการณ์โดนเหยื่อขบวนการหลอกลวงที่แอบอ้างเป็นทีมงานกองถ่ายละครในประเทศไทย โดยเมื่อปลายเดือนธันวาคม 2567 เขาได้รับคำเชิญจากบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นทีมงานกองถ่ายละครไทย เสนอให้เขารับบทนำ หรือบทสำคัญในละครเรื่องหนึ่ง พร้อมทั้งระบุว่ามีโอกาสสูงที่เขาจะได้บทนี้แทนนักแสดงคนอื่นที่อาจถอนตัว
เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ แก๊งหลอกลวงได้นำเสนอข้อมูลที่จัดทำอย่างมืออาชีพ รวมถึงเอกสาร “โครงการถ่ายทำละคร” ที่มีข้อมูลครบถ้วน เช่น ชื่อเรื่อง เรื่องย่อ รายละเอียดตัวละครสำคัญ ชื่อผู้กำกับซึ่งแอบอ้างว่ารับหน้าที่โดย “แชมป์” วีรชิต ทองจิลา ผู้กำกับซีรีส์ชื่อดัง ทีมโปรดิวเซอร์ วันถ่ายทำ และสถานที่ถ่ายทำ
ฟ่านหู่ กล่าวว่า เอกสารเหล่านี้ดูสมจริงและน่าเชื่อถืออย่างยิ่ง แม้แต่นักแสดงที่มีประสบการณ์ในวงการยังอาจหลงเชื่อ ติดกับดักแก๊งหลอกลวงสายอาชีพ
หลังจากส่งคลิปการทดสอบบทไปให้ทีมงาน ฟ่านหู่ได้รับการตอบกลับในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง โดยอีกฝ่ายแสดงความพึงพอใจอย่างมาก และแจ้งว่าเขาอาจได้รับบทนำแทนนักแสดงคนเดิม พร้อมทั้งเสนอค่าตอบแทนที่สูงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและดึงดูดใจ
ฟ่านหู่เดินทางถึงกรุงเทพฯ ในวันที่ 28 ธันวาคม 2567 โดยมีนักแสดงชาวจีนอีก 3 คนที่ได้รับการว่าจ้างในลักษณะเดียวกันเดินทางมาด้วย อย่างไรก็ตาม ฟ่านหู่เริ่มพบพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจ เช่น การพยายามแยกกลุ่มนักแสดงออกจากกัน ทั้งที่พวกเขาเดินทางมาด้วยกัน อีกทั้งยังมีการจัดห้องพักเพียงห้องเดียวสำหรับนักแสดงทั้งหมด ทั้งที่โรงแรมยังมีห้องว่าง ฟ่านหู่เริ่มสงสัยว่ากองถ่ายนี้อาจไม่ใช่ของจริง
ฟ่านหู่ได้ติดต่อ “แชมป์” วีรชิต ทองจิลา ผู้กำกับซีรีส์ชื่อดังที่มีชื่ออยู่ในเอกสารของ “กองถ่าย” ผ่านทางโซเชียลมีเดีย และได้รับคำตอบว่า แชมป์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับโครงการนี้ พร้อมเตือนให้ฟ่านหู่ปกป้องตัวเองและคนรอบตัว
เมื่อรู้ตัวว่าเป็นเหยื่อของขบวนการหลอกลวง ฟ่านหู่ และนักแสดงอีกคนหนึ่งเริ่มวางแผนหลบหนี โดยทั้งคู่ทำทีเป็นปฏิบัติตามคำสั่งของ “กองถ่าย” เพื่อไม่ให้ผู้หลอกลวงสงสัย จากนั้นในช่วงกลางดึก ทั้งสองแอบออกจากโรงแรมและย้ายไปพักที่โรงแรมแห่งใหม่ซึ่งอยู่ไกลออกไป
ก่อนออกจากโรงแรม ฟ่านหู่ได้แจ้งพนักงานโรงแรมเก่าว่าพวกเขาเพียง “ออกไปเที่ยว” เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดปกติที่อาจทำให้กลุ่มมิจฉาชีพระแคะระคาย เขาเดินทางกลับถึงกรุงปักกิ่งในวันที่ 30 ธันวาคม 2567 อย่างปลอดภัย
ฟ่านหู่เปิดเผยว่า แก๊งนี้มีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมบันเทิง ทำให้พวกเขาสามารถสร้างเรื่องราวและเอกสารที่ดูสมจริงเพื่อหลอกลวงนักแสดง โดยพวกเขาเสนอค่าตอบแทนในอัตราที่ใกล้เคียงกับมาตรฐานของวงการจริง เพื่อไม่ให้เกิดความสงสัย ฟ่านหู่แนะนำให้ผู้ที่ได้รับคำเชิญในลักษณะนี้ตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ผู้กำกับหรือบริษัทที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง
ที่มา : Red Star News