xs
xsm
sm
md
lg

กระแสแห่งปี 2024 ในแดนมังกร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สำหรับปีนี้ มุมจีน ขอย้อนรอยข่าวเหตุการณ์ในประเทศจีนปี 2024 โดยคัดเลือกกระแสจีนที่น่าสนใจ 5 กระแสที่เป็นการเปลี่ยนแปลงหลัก ที่จะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศจีน


1)สำหรับปี 2024 เรียกได้ว่าเป็น “ปีแห่งฟรีวีซ่าจีน” จีนสร้างเซอร์ไพร์สไฟเขียวฟรีวีซ่าให้กับต่างชาติและเป็นการเปิดกว้างรอบด้านมากที่สุด ตั้งแต่เดือน พ.ย. ปี 2023 จีนประกาศยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศให้กับประเทศต่างๆ 38 ประเทศซึ่งมีผลบังคับใช้ไปถึงเดือน ธ.ค. 2025 โดยผู้ถือหนังสือเดินทางทั่วไปสามารถเดินทางมาจีนด้วยจุดประสงค์ต่างๆ ทั้งติดต่อธุรกิจ ท่องเที่ยว เยี่ยมญาติ แลกเปลี่ยนโครงการต่างๆ และพำนักได้ 30 วัน

จนถึงขณะนี้จีนได้บรรลุข้อตกลงฟรีวีซ่าให้กับผู้ถือหนังสือเดินทางประเภทต่างๆของประเทศต่างๆ รวมทั้งสิ้น 157 ประเทศ โดยประกอบด้วยข้อตกลงฟรีวีซ่าซึ่งกันและกันอย่างครอบคลุม มีจำนวน 25 ประเทศ ซึ่งรวมไทย

จีนยังทุ่มสุดตัวในการอัดฉีดมาตรการเดินทางผ่านแดนแบบฟรีวีซ่า (visa-free transit) ในเดือน ธ.ค. โดยประกาศขยายเวลาให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาแวะเปลี่ยนเที่ยวบินที่สนามบินในจีน สามารถพำนักในจีนโดยไม่มีวีซ่าได้นานถึง 240 ชั่วโมง หรือ 10 วัน โดยเป็นการขยายจาก 72 ชั่วโมง และ 144 ชั่วโมง ซึ่งมาตรการนี้มีผลบังคับใช้กับ 54 ประเทศ

สำหรับการบรรลุข้อตกลงฟรีวีซ่าจีนในปี 2024 มีเป้าหมายหลักเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาจับจ่ายกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศจีนเพื่อกระตุ้นอัตราเติบโตเศรษฐกิจมังกร


2) "การแข่งขันในวงล้อ"  จีนกำลังเผชิญการแข่งขัน ที่เรียกขานว่า “เน่ยจ่วน” (内卷)คือ การแข่งขันในวงล้อ หรือการแข่งขันกันเองอย่างดุเดือด

ในการประชุมปฏิบัติการเศรษฐกิจส่วนกลาง เมื่อต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมมุ่งถกเถียงและระดมสมองหาหนทางแก้ไขสถานการณ์การแข่งขันแบบ “เน่ยจ่วน”ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งกำลังกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ในการพัฒนาเศรษฐกิจ

ภาคอุตสาหกรรม ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ “เน่ยจ่วน” อย่างหนักหน่วงที่สุด คือ ภาคอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะภาครถยนต์พลังงานใหม่ (NEVs) และภาคพลังงานไฟฟาแสงอาทิตย์ หรือแผงโซล่าเซลล์

กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน เปิดศึกสงครามหั่นราคากันดุเดือดและต่างฝ่ายต่างบาดเจ็บไปตามๆกัน โดยกำไรของแต่ละค่ายรถยนต์ดิ่งเหว

ด้านอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟาแสงอาทิตย์ (PV industry) เผชิญปัญหาการผลิตล้นเกินอย่างสาหัส ขณะที่ความต้องการในตลาดลดลง ความไม่สมดุลนี้กระตุ้นให้เกิดสงครามราคาอย่างดุเดือด อัตรากำไรดิ่งเหวเกือบร้อยละ 70
มิต้องสงสัยเลยว่า ทำไมจึงเกิดภาพดราม่าที่ ชาวยุโรปเอาแผงโซล่าร์เซลล์มาทำรั้วบ้าน ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากโขเมื่อเทียบกับการสร้างรั้วจากวัสดุอุปกรณ์ทำรั้วทั่วไป


3) การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรจีน ปัญหาหนักอกพญามังกรสุดๆอีกปัญหาที่จะต้องใช้เวลาแก้ไขกันยาวนาน คือ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรที่อัตราการเกิดต่ำเป็นประวัติการณ์ และอัตราผู้สูงอายุนับวัยสูงขึ้นๆ

รัฐบาลท้องถิ่นในจีนกำลังระดมมาตรการต่างๆเพื่อเร่งอัตราเกิดของเด็กอย่างเร่งด่วน จนเกิดเหตุดราม่ากรณีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแห่งหนึ่งโทรศัพท์หากลุ่มผู้หญิงที่เพิ่งแต่งงาน ว่า “คุณท้องหรือยัง?” จนกลุ่มผู้หญิงหลายคนออกมาโวยถึงการรุกล้ำความเป็นส่วนตัว

ข้อมูลตัวเลขของสำนักสถิติแห่งจีน ระบุอัตราการเกิดคลอดตกต่ำในรอบ 75 ในปี 2023 มีเด็กเกิดใหม่แค่ 9 ล้านคน ลดลงครึ่งหนึ่งจากราว 17 ล้านคน ในปี 2014 สำนักการวิจัย Pew Research คาดการณ์ว่าในปี 2035 จีนจะมีประชากรอายุกว่า 60 ปี ถึง 400 ล้านคน!


4) ฝันร้ายกลุ่มบริษัทชาติตะวันตกในจีน ในเดือนสุดท้ายของปี ค่ายรถยนต์แห่งสหรัฐอเมริกา General Motors (GM) ประกาศว่าจะปรับลดมูลค่าการลงทุนในจีนและปิดโรงงานบางแห่ง พร้อมทั้งเปิดเผยว่าผลประกอบการในจีนลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ จีนยังเริ่มสอบสวน Nvidia ผู้นำด้านชิป AI ของสหรัฐฯ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการตอบโต้ข้อจำกัดด้านการค้าของอเมริกา

ธุรกิจตะวันตกยังต้องเผชิญกับคู่แข่งท้องถิ่นที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ อย่างกรณีของยักษ์กาแฟจากสหรัฐฯ สตาร์บัคส์ (Starbucks) ซึ่งเคยเป็นผู้นำตลาดกาแฟในจีน ได้สูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้กาแฟแบรนด์จีนที่เติบโตอย่างรวดเร็วคือ ลัคอิน คอฟฟี่ (Luckin Coffee) และ Cotti Coffee ปัจจุบันยักษ์ร้านกาแฟสัญชาติจีน Luckin Coffee และ Cotti Coffee มีร้านมากถึง 21,000 และ 10,000 แห่งทั่วประเทศในปี 2024 นี้ โดย Luckin Coffee ซึ่งแซงหน้าสตาร์บักส์ในปี 2023 ใช้กลยุทธ์ราคาถูกกว่าพร้อมเข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง

ส่วน Starbucks มีร้านสาขาในจีนเกือบ 7,600 แห่ง และกำไรลดลงสามไตรมาสติดต่อกัน โดยไตรมาสที่แล้ว กำไรตกลงร้อยละ 14

ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี “แอปเปิล” (Apple) ต้องเผชิญกับคู่ท้าชิงส่วนแบ่งตลาดกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของหัวเหวย (Huawei) อย่าง Mate 70 ที่ได้รับความนิยมในจีน

ขณะเดียวกัน BYD และ NIO บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน สามารถผลิตรถยนต์ราคาถูกแต่มีเทคโนโลยีทันสมัยตอบโจทย์ผู้บริโภคท้องถิ่นได้มากกว่า

นอกจากนี้ บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจีนยังใช้ความได้เปรียบในการแข่งขันเชิงเทคโนโลยีและราคาที่ต่ำกว่า กดดันให้บริษัทต่างชาติไม่สามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดได้เหมือนที่ผ่านมา


5) สถิติโลกใหม่! นักบินอวกาศจีนเดินอวกาศยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ 9 ชั่วโมงเต็ม   ในเดือนธ.ค. 2024 นักบินอวกาศจีนสองคนจากภารกิจ “เสินโจว-19”   ไช่ ซู่เจ๋อ และซ่ง หลิงตง สร้างสถิติระดับโลกใหม่ด้วยการเดินอวกาศ (Spacewalk) นานถึง 9 ชั่วโมง 4 นาที บริเวณสถานีอวกาศเทียนกง (Tiangong Space Station) ซึ่งโคจรอยู่ในระดับวงโคจรต่ำของโลก (Low-Earth Orbit) ถือเป็นการทำลายสถิติเดิมที่นักบินอวกาศจาก NASAคือ เจมส์ วอสส์ และซูซาน เฮล์มส์ ทำไว้ที่ 8 ชั่วโมง 56 นาทีในปี 2001


กำลังโหลดความคิดเห็น