สวีเดน ลิทัวเนีย และสาธารณรัฐเช็ก เป็นเพียง 3 ชาติในสหภาพยุโรป (EU) 27 ชาติ ซึ่งไม่ติดอยู่ในรายชื่อประเทศที่เดินทางเข้าจีนได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า แม้ว่ายุโรปเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาลปักกิ่งในการขยายโครงการยกเว้นวีซ่าแต่ฝ่ายเดียวก็ตาม
ในมุมมองนักวิเคราะห์ของจีน การถูกละเลยนี้สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลปักกิ่งมองความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับชาติทั้งสามว่ากำลังมีปัญหา โดยประเด็นไต้หวันเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งในอีกหลายๆ ปัจจัย
นายหวัง อี้เว่ย ผู้อำนวยการสถาบันกิจการระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยเหรินหมินแห่งประเทศจีนยังชี้ว่า สวีเดน ลิทัวเนีย และสาธารณรัฐเช็ก “ต่อต้านรัสเซีย” เป็นพิเศษ และตั้งธงว่าจีนเข้าข้างรัสเซียในสงครามยูเครน
นักการเมืองสวีเดนบางคนกล่าวว่า ชัยชนะของรัสเซียในยูเครนจะ “ส่งเสริมให้จีนยึดดินแดนจากชาติอื่นๆ” ทำให้สถานทูตจีนประท้วงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถ้อยคำดังกล่าว “เต็มไปด้วยความคิดแบบสงครามเย็นและอคติทางอุดมการณ์” สถานทูตระบุบนเว็บไซต์
ความสัมพันธ์มาถึงจุดชำรุดเมื่อรัฐบาลสวีเดนห้ามการใช้อุปกรณ์ของบริษัทหัวเว่ยในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากเกรงเป็นภัยต่อความมั่นคง
ล่าสุด เมื่อเดือนที่แล้วยังเกิดเหตุการณ์สายเคเบิลโทรคมนาคมในทะเลบอลติกในเขตน่านน้ำสวีเดนถูกตัดขาด ซึ่งสวีเดนสงสัยจีนมีส่วนเกี่ยวข้อง
ด้านลิทัวเนียและสาธารณรัฐเช็กสนับสนุนไต้หวันอย่างออกนอกหน้า เช่น การเปิดสถานทูตโดยพฤตินัยในชื่อว่า “สำนักงานตัวแทนของไต้หวัน” ในลิทัวเนีย การสั่งขับเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานผู้แทนของจีน 3 คนในฐานะบุคคลไม่ถึงปรารถนาออกจากลิทัวเนียเมื่อเร็วๆ นี้ โดยจีนกับลิทัวเนียเริ่มมึนตึงกัน หลังจากลิทัวเนียถอนตัวจากเวทีความร่วมมือ 17+1 ของจีนในปี 2564
เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว นายเปตร์ พาเวล (Petr Pavel) ประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งของสาธารณรัฐเช็กในขณะนั้นได้รับโทรศัพท์สายตรงจากประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน กลายเป็นผู้นำชาติสมาชิกอียูคนแรกที่มีการพูดคุยกับผู้นำไต้หวัน กระทรวงต่างประเทศจีนระบุว่า เป็นการละเมิดหลักการจีนเดียวอย่างโจ่งแจ้ง
นอกจากนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎรเช็กและคณะยังตบเท้าเยือนไต้หวันโดยมีการทำบันทึกความเข้าใจด้านการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การเมืองและวัฒนธรรมร่วมกัน 11 ฉบับ และมีการเจรจาเงื่อนไขข้อตกลงเกี่ยวกับอาวุธอีกด้วย การไปเยือนกรุงปรากในเดือนมีนาคมปีนี้ของรองประธานาธิบดี เซียว บีคิม แห่งไต้หวัน โดยต่อเครื่องบินที่สหรัฐฯ การตั้งศูนย์วัฒนธรรมแห่งใหม่ของสาธารณรัฐเช็กในกรุงไทเป หรือการเยือนกรุงปรากของอดีตประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ในเดือนตุลาคม
นายชุย หงเจี้ยน อดีตนักการทูตและหัวหน้าฝ่ายสหภาพยุโรปศึกษาของมหาวิทยาลัยการศึกษานานาชาติปักกิ่ง ระบุว่า นโยบายการยกเว้นวีซ่าฝ่ายเดียวของจีนเป็นระบบการประเมินผลความสัมพันธ์กับชาติทั้งสาม ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ก็ต่อเมื่อชาติเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายต่อจีนเท่านั้น
ทั้งนี้ จีนเริ่มโครงการยกเว้นวีซ่ามาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2566 ขณะนี้ผู้ถือหนังสือเดินทางจาก 38 ชาติสามารถเข้าประเทศจีนได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า และอยู่ได้นานกว่า 30 วัน โครงการนี้จะดำเนินไปจนถึงสิ้นปี 2568 โดยที่ทั้ง 38 ชาติไม่จำเป็นต้องยกเว้นวีซ่าให้แก่พลเมืองจีน
กระนั้นสวีเดน ลิทัวเนีย และสาธารณรัฐเช็กก็ติดอยู่ในรายชื่อ 54 ชาติที่พลเมืองสามารถเดินทางผ่านจีนโดยไม่ต้องขอวีซ่าเป็นเวลา 10 วัน สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาก็อยู่ในรายชื่อนี้เช่นกัน
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์