เรียกว่าจำแทบไม่ได้เลย สำหรับ "หลี่ฉี" ชายวัย 30 กว่าปี จากมณฑลหูเป่ย หลังประกาศเดินเท้า พร้อมรถเข็นคู่ใจ ไปชมความงามของวังโปตาลา ซึ่งตั้งอยู่ในนครลาซา เขตปกครองตนเองทิเบต (ซีจ้าง) เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา
เป็นเวลาหลายร้อยวันแล้ว ที่เขาต้องเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวน ทั้งพายุ ไต้ฝุ่น และอุบัติเหตุต่างๆ หรือกระทั่งหมาป่า ล่าสุด มีรายงานว่าหลี่ฉีเดินทางไปถึงทิเบตได้สำเร็จแล้ว และอีกประมาณ 500 กิโลเมตร ก็จะไปถึงนครลาซา
หลี่ฉีเล่าว่า ระยะเวลาที่ผ่านมา เขานอนที่โรงแรมเพียง 6 ครั้ง ปกติแล้ว เขามักจะกางเต็นท์นอนอยู่ในป่า หรือไม่ก็นอนตามริมถนน เพื่อประหยัดเงิน ส่วนเรื่องอาหารการกิน เขาจะทำอาหารกินเอง มีไปกินที่ร้านบ้าง แต่จะควบคุมให้ไม่เกินครั้งละ 25 หยวน (ประมาณ 125 บาท) โดยค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนของเขาอยู่ที่ราวๆ 1,000 หยวน (ประมาณ 5,000 บาท) และจนถึงตอนนี้เขาจ่ายเงินไปไม่ถึง 10,000 หยวน (ประมาณ 50,000 บาท)
ย้อนกลับไปในช่วงเริ่มต้น หลี่ฉีมีใบหน้าที่สดใสร่าเริง โดยเขามักจะไลฟ์สด พูดคุยกับคนดูระหว่างเดินทาง อย่างไรก็ตาม ด้วยแสงแดดสภาพอากาศ และความยากลำบากต่างๆ ที่ต้องเผชิญ ทำให้เขาไม่ได้อาบน้ำมาครึ่งปีแล้ว แถมผิวของเขายังคล้ำและแห้งกร้าน ผมเผ้าก็รุงรัง หนวดเคราก็ยาวกระเซอะกระเซิง จนทำเอาคนเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นคุณปู่ไร้บ้านไปเสียแล้ว!
ทั้งนี้ หลี่ฉีคาดว่าเขาจะไปถึงนครลาซาในช่วงตรุษจีนที่จะถึงนี้ โดยเมื่อไปถึง เขาวางแผนที่จะอาบน้ำ ตัดผม แปลงโฉมเสียใหม่ แล้วค่อยไลฟ์สด เพื่อบอกผู้ชมว่า เขาทำสำเร็จแล้วและเป็นชาวหูเป่ยคนแรกที่สามารถเดินเท้ามาถึงทิเบต
ที่มา : 90后男子徒步3000公里赴西藏 半年行程让他变“70岁大爷” (Oriental Daily)