เมื่อเช้าวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เวลา 07.30 น. เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เมืองฉางเต๋อ มณฑลหูหนัน เมื่อหวงเหวิน ชายวัย 39 ปี ขับรถเอสยูวีสีขาวเร่งความเร็วพุ่งชนฝูงชนหน้าโรงเรียนประถม ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บรวม 30 คน ในจำนวนนี้มีเด็กนักเรียนถึง 18 คน
หลังจากรถของหวงหยุดนิ่งเนื่องจากเครื่องยนต์ดับ เขาได้ลงจากรถพร้อมอาวุธและทำร้ายผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ต่อเนื่อง โดยในจำนวนผู้บาดเจ็บมี 7 ราย ที่อาการสาหัส 16 รายบาดเจ็บปานกลาง และอีก 7 รายบาดเจ็บเล็กน้อย
ศาลประชาชนกลางเมืองฉางเต๋อเปิดเผยว่า หวงก่อเหตุครั้งนี้เพื่อระบายความโกรธส่วนตัว สืบเนื่องจากการสูญเสียทางการเงินที่เกิดจากการลงทุนล้มเหลว และปัญหาความขัดแย้งในครอบครัว พฤติกรรมของเขาถูกระบุว่ามีเจตนาร้ายแรง โดยมุ่งเป้าไปที่เด็กนักเรียนและผู้ปกครองซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์
ศาลระบุว่า หวงมีพฤติกรรมขับรถพุ่งชนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเสียหายสูงสุด และแสดงให้เห็นถึงความอำมหิตของเขา
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ศาลประชาชนกลางได้มีคำตัดสินให้ประหารชีวิต หวงเหวิน แต่รอลงอาญา 2 ปี พร้อมทั้งริบสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต โดยการพิจารณาคดีใช้เวลาไม่นาน ซึ่งเป็นสิ่งที่พบได้ยากในกระบวนการยุติธรรมของจีน นอกจากนี้ ศาลยังเน้นย้ำถึงความเลวร้ายของแรงจูงใจ และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสังคม
เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในหลายคดีความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจีนในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้สังคมจีนแสดงความกังวลถึงปัญหาความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะ และเรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้น
การตัดสินที่รวดเร็วและเปิดเผยแรงจูงใจของผู้ก่อเหตุในคดีนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักในระบบยุติธรรมจีน แต่เป็นการตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนที่ต้องการความมั่นใจในความปลอดภัยและการลงโทษอย่างเด็ดขาดต่อผู้กระทำผิด
ที่มา : South China Morning Post