ร่มฉัตร จันทรานุกูล
หากพูดถึงแจ็คหม่า คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก แจ็คหม่าคือผู้ก่อตั้งอาณาจักรอาลีบาบา ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัทไอทีและอีคอมเมิร์ซที่ทรงอิทธิพลอย่างมากในจีนและระดับโลก เช่น เถาเป่า (Taobao) ทีมอล (Tmall) และอาลีเพย์ (Alipay) นอกจากนี้ อาลีบาบา กรุ๊ป ยังมีธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจคลาวน์ ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจด้านอาหารแปรรูปและการเกษตร
หากบอกว่า แจ็คหม่า เป็นหนึ่งบุคลากรชั้นยอดพีระมิดของจีนก็ไม่ผิด เพราะแจ็คหม่านำความรุ่งโรจน์มาสู่จีน โดยเฉพาะในด้านของการค้าออนไลน์ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงมาสู่จีนเป็นอย่างมาก มาจนถึงปัจจุบันถึงแม้ว่าแจ็คหม่าจะลดบทบาทในจีนลงไปมาก แต่ก็ยังเป็นที่สนใจของสื่อและประชาชนในจีนอยู่เสมอ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2020 แจ็คหม่า ได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับระบบการเงินการธนาคารของจีน ในงาน Bond summit ที่เซี่ยงไฮ้ ในเนื้อหาสุนทรพจน์นั้นมีการวิพากษ์วิจารณ์ระบบการเงินการคลังที่ควบคุมมากเกินไป โดยแจ็คหม่ามองว่าการพยายามทำให้ “ความเสี่ยงต่ำที่สุดคือความเสี่ยงที่สูงสุด” อีกทั้งยังมีการพูดถึงแอนท์กรุ๊ป (Ant Group) ที่กำลังจะขึ้นตลาดหลักทรัพย์ โดยแจ็คหม่ากล่าวว่าการขึ้นตลาดหลักทรัพย์ของแอนท์ กรุ๊ป จะเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ต้องจารึก
แต่หลังจากที่แจ็คหม่าได้กล่าวสุนทรพจน์ไป มีกระแสตีกลับอย่างแรงจากฝ่ายรัฐบาล เช่น ผู้เชี่ยวชาญในธนาคารแห่งชาติจีนออกมาให้ความเห็นถึงสิ่งที่แจ็คหม่ากล่าวว่า “มีความเย่อหยิ่ง คึกคะนองจนเกินไป ระบบธนาคารของประเทศมีระบบแบบแผนที่ซับซ้อนและรัดกุม ไม่ใช่ว่าจะแบบที่นายแจ็คหม่าได้กล่าวไว้ได้” หลังจากเรื่องนี้ผ่านไปไม่นาน อาลีบาบา กรุ๊ป ก็ถูกลงดาบมากมายจากทางรัฐบาลจีน ไม่ว่าเป็นการห้ามแอนท์กรุ๊ป ขึ้นตลาดหลักทรัพย์ หรือกระทั่งมีการปรับเงินอาลีบาบาโทษฐานผูกขาดตลาด เป็นต้น
หลังจากที่ แจ็คหม่า เงียบไปก็ยังมีคนสนใจเรื่องของเขาอยู่ตลอดเวลา มีรายงานข่าวว่าแจ็คหม่าย้ายไปใช้ชีวิตกับครอบครัวที่ญี่ปุ่น ก็ไม่มีการยืนยันที่แน่ชัด ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ แจ็คหม่า ปรากฏตัวเป็นครั้งคราวในหน้าสื่อจีน ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา แจ็ค หม่า ปรากฏตัวที่สำนักงานอาลีเพย์ และร่วมงานฉลองครบรอบ 20 ปีของอาลีเพย์และแอนท์กรุ๊ป ในงานนี้แจ็คหม่ากล่าวว่า "วันนี้ผมไม่ได้มาเพื่อพูดถึง 20 ปีที่ผ่านมา แต่เพื่ออนาคต 20 ปีของแอนท์กรุ๊ป"
เป็นที่สังเกตว่า แม้แจ็คหม่าจะประกาศวางมือจากอาลีบาบาไปแล้ว ทุกครั้งที่แจ็ค หม่า ปรากฏตัวและกล่าวถ้อยคำสำคัญ ดูเหมือนว่าจะมีความสัมพันธ์กับจุดเปลี่ยนสำคัญในการพัฒนาของบริษัท โดยเฉพาะในเดือนมีนาคม 2023 อาลีบาบาได้เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท ด้วยการปรับโครงสร้างและแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มธุรกิจหลัก และบริษัทธุรกิจย่อยในรูปแบบโครงสร้าง "1+6+N" ดังนี้
- 1 (บริษัทแม่) : อาลีบาบา กรุ๊ป ทำหน้าที่เป็นบริษัทแม่ ดูแลโครงสร้างการบริหารและกลยุทธ์ระดับสูงขององค์กรทั้งหมด
- 6 (กลุ่มธุรกิจหลัก) : อาลีบาบาแบ่งธุรกิจออกเป็น 6 กลุ่มธุรกิจหลักที่สามารถดำเนินงานได้อย่างอิสระ และบางกลุ่มมีเป้าหมายในการระดมทุน หรือ IPO
o Cloud Intelligence Group: ธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งและปัญญาประดิษฐ์
o Taobao Tmall Group: กลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศจีน เช่น Taobao และ Tmall
o Local Services Group: ภาคบริการท้องถิ่น เช่น Ele.me (เดลิเวอรีอาหาร)
o Cainiao Smart Logistics Group: ธุรกิจโลจิสติกส์และการจัดส่งสินค้า
o Global Digital Commerce Group: ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในต่างประเทศ เช่น Lazada และ AliExpress
o Digital Media and Entertainment Group: ธุรกิจด้านสื่อและความบันเทิง เช่น Youku
- N (หน่วยธุรกิจเพิ่มเติม): ธุรกิจอื่นๆ ที่อยู่ในโครงสร้างของอาลีบาบา ซึ่งยังคงเปิดรับโอกาสใหม่ๆ และการพัฒนาในอนาคต
ในเดือน พ.ค.ปีเดียวกัน แจ็ค หม่าได้จัดการประชุมขนาดเล็กกับผู้บริหารกลุ่มธุรกิจเถาเทียน (TaoTian) เพื่อหารือเกี่ยวกับทิศทางธุรกิจ และหลังจากนั้นเพียงหนึ่งเดือน อาลีบาบาก็ได้ประกาศว่า นายจาง หย่ง (Daniel Zhang) จะลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการและซีอีโอ โดยให้นายไช่ ฉงซิน (Joseph Tsai) และนายอู๋ หย่งหมิง (Eddie Wu) เข้ามารับตำแหน่งแทน
สำหรับแอนท์ กรุ๊ป หลังจากที่การเสนอขายหุ้น (IPO) ถูกระงับในปี 2020 บริษัทได้เข้าสู่กระบวนการปรับปรุงแก้ไขเป็นระยะเวลากว่า 3 ปี โดยปิดธุรกิจที่ละเมิดกฎระเบียบของจีน และยอมรับบทลงโทษเป็นการปรับเงิน เช่นเดียวกับอาลีบาบา แอนท์ กรุ๊ปได้ปรับกลยุทธ์และโครงสร้างองค์กรใหม่ ถึงแม้ว่าแจ็คหม่าจะประกาศวางมือ แต่หลายคนมองว่าเขายังเป็นผู้คุมอำนาจสูงสุดที่แท้จริงของบริษัท โดยเฉพาะในด้านทิศทางการเติบโต การปรากฏตัวของแจ็ค หม่า ในแต่ละครั้งเป็นการส่งสัญญาณการเริ่มต้นใหม่ หรือเดินหน้าครั้งใหญ่ในอนาคต
ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา แจ็ค หม่า กล่าวว่า “AI กำลังจะเปลี่ยนทุกสิ่ง” โดยแจ็คหม่า ได้พูดถึง AI หลายครั้ง ว่า “เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ยุคอินเทอร์เน็ตเพิ่งเริ่มต้นขึ้น พวกเราโชคดีที่คว้าโอกาสในยุคนั้นไว้ได้ แต่ในอีก 20 ปีข้างหน้า การเปลี่ยนแปลงจากยุค AI จะยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้เพราะ AI จะเป็นยุคที่ยิ่งใหญ่กว่า”
แจ็คหม่า ยังเน้นว่าแม้ AI จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง แต่มันไม่ได้หมายความว่า AI จะเป็นผู้กำหนดทุกสิ่ง เขากล่าวว่า “เทคโนโลยีมีความสำคัญก็จริง แต่สิ่งที่จะตัดสินชัยชนะในอนาคต คือสิ่งที่เราทำในวันนี้ เราต้องสร้างสิ่งที่มีคุณค่าและแตกต่างสำหรับยุคที่กำลังจะมาถึง”
หลังจากที่แจ็คหม่าออกมาให้วิสัยทัศน์ ก็มีข่าวเปิดเผยว่ากลยุทธ์ใหม่ของแอนท์ กรุ๊ป ที่กำลังพยายามกันอยู่ คือให้ AI มาเป็นอันดับแรก โดยตั้งแต่ปี 2023 แอนท์กรุ๊ปได้ประกาศกลยุทธ์สำคัญสามประการ คือ AI First โมเดลธุรกิจแบบ “สองวงล้อ” ของ Alipay (คือ "การชำระเงินดิจิทัล" และ "การเชื่อมต่อดิจิทัล" ซึ่งเป็นกลยุทธ์รูปแบบการพัฒนาธุรกิจแบบคู่ขนาน) และการเร่งพัฒนาความเป็นสากล แอนท์กรุ๊ปได้เร่งความเร็วลงทุนในเทคโนโลยี AI หลากหลายแขนง เช่น สร้างโมเดลขนาดใหญ่ การเพิ่มประสิทธิภาพเชิงคำนวณ เป็นต้น
ล่าสุด แอนท์ กรุ๊ป ยังได้ซื้อกิจการ Biansai Technology สตาร์ทอัปที่เชี่ยวชาญด้านการผสมผสานระหว่างโมเดลภาษาขนาดใหญ่และการเรียนรู้แบบเสริมแรง (Reinforcement Learning) โดยเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความสนใจอย่างมากในยุค AI เพราะช่วยให้ระบบสามารถพัฒนาและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยผู้ก่อตั้งบริษัท นายอู๋อี้ จะเข้าร่วมแอนท์กรุ๊ปในตำแหน่งหัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์ของห้องปฏิบัติการการเรียนรู้แบบเสริมแรงที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ด้านนายจิ่ง เซียนต้ง ผู้กุมบังเหียนแอนท์กรุ๊ปในปัจจุบันกล่าวว่า “ทศวรรษต่อไปจะทุ่มเทมากขึ้นในการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี โดยมุ่งเน้นที่ AI และเทคโนโลยีด้านข้อมูล”
ในส่วนของแจ็ค หม่าได้แสดงความสนใจภาค AI มาตั้งแต่ต้นปี 2024 โดยในเดือน เม.ย.เขาได้โพสต์ข้อความในเครือข่ายภายในของอาลีบาบาเกี่ยวกับ “ยุค AI ที่เพิ่งเริ่มต้น” และในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เขาได้ชี้ถึงโอกาสใน “AI กับอีคอมเมิร์ซ” ด้านอาลีบาบาก็เดินหน้าอย่างเต็มที่ นายอู๋ หย่งหมิง ซีอีโอได้เน้นย้ำว่า “อาลีคลาวด์ต้องขับเคลื่อนด้วย AI และให้ความสำคัญกับคลาวด์สาธารณะ” จากผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของอาลีคลาวด์ รายได้อยู่ที่ 29.61 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 7% จากปีที่แล้ว
ปัจจุบัน อาลีบาบาได้รวมธุรกิจอีคอมเมิร์ซและจัดตั้ง Alibaba Commerce Group การปรับเปลี่ยนโครงสร้างนี้มีเป้าหมายเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับยุคใหม่ของ AI และการแข่งขันในตลาดอีคอมเมิร์ซที่เปลี่ยนแปลง ในปี 2025 อาลีบาบายังได้คว้าสิทธิเป็นพันธมิตรด้านอีคอมเมิร์ซของงาน “CCTV Spring Festival Gala ครั้งที่ 4” (งานเทศกาลวันตรุษจีนทางช่องโทรทัศน์รัฐบาลจีน) ซึ่งถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญสำหรับการโปรโมตเทคโนโลยี AI ของอาลีบาบาในระดับชาติ
มีชาวเน็ตจีนบางคนบอกว่าการปรากฏตัวของแจ็คหม่า สร้างความมั่นใจให้เศรษฐกิจ และการที่แจ็คหม่าไปปรากฏตัวในสำนักงานใหญ่ของอาลีบาบา ไม่ใช่แค่การ “กลับมาดูบ้าน” แต่ยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้พนักงานอาลีบาบาอีกด้วย เพราะชื่อเสียงและวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ของผู้ก่อตั้ง ถือเป็นทรัพย์สินที่ล้ำค่าที่สุดของอาลีบาบา แต่แจ็คหม่าก็ไม่ได้มีแต่คนรัก กลุ่มคนที่ไม่ชอบแจ็คหม่าก็มีเช่นกัน โดยจะมองว่าธุรกิจของอาลีบาบาผูกขาด สร้างความเสียหายแก่ระบบ และบางคนก็ไม่ชอบบุคลิกท่าทางการแสดงออกของแจ็คหม่าเช่นกัน ที่ดูมั่นหน้ามั่นใจตัวเองจนเกินไป
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่า แจ็คหม่ายังคงมีบทบาทในสังคมและเศรษฐกิจจีนอย่างมาก คนจีนส่วนใหญ่มองว่าเขาคือผู้มีวิสัยทัศน์ การเคลื่อนไหวและคำพูดของเขายังเป็นที่จับตามองในแวดวงธุรกิจ และหากว่าต้องการดูทิศทางการเติบโตของอาลีบาบาให้จับตาไปที่แจ็คหม่า เพราะการปรากฏตัวทุกครั้งของเขามักจะสะท้อนถึงทิศทางเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญของอาลีบาบาในอนาคต