เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติจีน (NIA) ประกาศปรับปรุงนโยบาย "ผ่านแดนไม่ต้องขอวีซ่า" ขยายระยะเวลาพำนักจากเดิม 72 ชั่วโมงและ 144 ชั่วโมง เป็น 240 ชั่วโมง หรือ 10 วัน สำหรับชาวต่างชาติจาก 54 ประเทศ เช่น รัสเซีย บราซิล สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ โดยไม่มีไทย
นโยบายใหม่นี้มีผลบังคับใช้ทันที โดยนักเดินทางสามารถพำนักในพื้นที่ที่กำหนดเมื่อเดินทางผ่าน 60 ช่องทางเข้าออก ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิม 39 ช่องทาง
กลุ่มประเทศที่ได้รับสิทธิแวะพักในจีนแบบจุกๆ ระหว่างผ่านแดนแบบปลอดวีซ่าตามมาตรการใหม่ล่าสุดนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 54 ประเทศ ดังต่อไปนี้
กลุ่มประเทศในทวีปยุโรป (40) : สหราชอาณาจักรรัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสเปน
กลุ่มประเทศในทวีปอเมริกา (6) : สหรัฐฯ บราซิล แคนาดา เม็กซิโก อาร์เจนติน่า ชิลี
กลุ่มประเทศโอเชียเนีย (2) : ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
กลุ่มประเทศเอเชีย (6) : ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ บรูไน สหรัฐอาหรับอีมิเรตส์ กาตาร์
การปรับปรุงนโยบายครั้งนี้มุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจต่างชาติ พร้อมทั้งขยายพื้นที่อนุญาตให้ทำกิจกรรมจาก 19 มณฑล เป็น 24 มณฑล ครอบคลุมพื้นที่เศรษฐกิจหลักทางตะวันออก ตลอดจนภูมิภาคภาคกลางและตะวันตกที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวและการพัฒนา โดยมณฑลที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ซานซี อานฮุย เจียงซี ไห่หนาน และกุ้ยโจว ซึ่งในบางมณฑล เช่น อานฮุย ไห่หนาน และกุ้ยโจว
สำหรับช่องทางเข้าออกใหม่ที่เพิ่มขึ้น 21 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นสนามบินนานาชาติในเมืองสำคัญ เช่น สนามบินไท่หยวนในมณฑลซานซี สนามบินเหวินโจวและอี้อูในมณฑลเจ้อเจียง สนามบินเหอเฝยและหวงซานในมณฑลอานฮุย สนามบินหนานชางในมณฑลเจียงซี สนามบินจี่หนานและเวยไห่ในมณฑลซานตง และสนามบินเฉิงตูเทียนฝูในมณฑลเสฉวน
นโยบาย "ผ่านแดนไม่ต้องขอวีซ่า" ฉบับใหม่นี้ยังอนุญาตให้นักเดินทางสามารถเดินทางข้ามมณฑลภายในพื้นที่ที่กำหนดได้ ซึ่งเพิ่มความยืดหยุ่นในการวางแผนการเดินทาง ทั้งการท่องเที่ยว การทำธุรกิจ และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม
นโยบายดังกล่าวช่วยกระจายการท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ที่มีทรัพยากรทางประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่โดดเด่น เช่น มณฑลซานซีที่มีแหล่งประวัติศาสตร์โบราณ มณฑลเจียงซีที่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องเคลือบ มณฑลกุ้ยโจวที่มีมรดกโลกทางธรรมชาติ และมณฑลไห่หนานที่กำลังพัฒนาเป็นเขตการค้าเสรีระดับสูง
นับตั้งแต่จีนเปิดพรมแดนอีกครั้งในปี 2566 หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการยกเว้นวีซ่าหลายระลอกเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 จีนมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ 8.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 48.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยกว่า 50% เป็นผู้เดินทางที่ใช้สิทธิยกเว้นวีซ่า ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 78.6%
การขยายเวลาพำนักและเพิ่มช่องทางเข้าออกครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของจีนในการส่งเสริมการเปิดประเทศในระดับสูงสุด กระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ขยายบทบาทของจีนในฐานะแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก และสร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ การค้า และวัฒนธรรมระหว่างจีนกับนานาประเทศ
ที่มา : สำนักข่าว CCTV, Reuters, South China Morning Post
*กราฟฟิกแสดงรายชื่อ 54 ประเทศ ที่สามารถพำนักในจีนนานถึง240 ชั่วโมง หรือ10 วัน (จากเดิม72-144 ชั่วโมง) ได้แก่
ทวีปยุโรป(40) : สหราชอาณาจักรรัสเซีย ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสปน ฯลฯ;
ทวีปอเมริกา(6) : สหรัฐฯ บราซิล แคนาดา เม็กซิโก อาร์เจนติน่า ชิลี;
ภูมิภาคโอเชียเนีย(2) :ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์;
ทวีปเอเชีย(6) : ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ บรูไน สหรัฐอาหรับอีมิเรตส์ กาตาร์