นายจง สานส่าน มหาเศรษฐีนักธุรกิจจีนกล่าวหาแอปพลิเคชันของไบต์แดนซ์ (ByteDance) และพินตัวตัว บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติเดียวกันว่า เป็นผู้สร้างความเสียหายให้ตนและแบรนด์จีน
นายจง วัย 69 ปี และธุรกิจน้ำดื่มบรรจุขวดแบรนด์ “หนงฟู สปริง” ของเขาตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักจากสงครามราคาและการโจมตีจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาตินิยม ซึ่งส่งผลให้มูลค่าตลาดของบริษัทลดลงหลายพันล้านดอลลาร์
ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสาธารณะคราวหนึ่งเมื่อต้นเดือน นายจง ได้วิพากษ์วิจารณ์พินตัวตัวซึ่งเป็นผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซที่เน้นการขายสินค้าลดราคา ก่อตั้งโดยนายมหาเศรษฐีคอลิน หวง โดยเขาเรียกแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์นี้ว่า เป็นภัยร้ายใหญ่ต่อแบรนด์สินค้าและอุตสาหกรรมของจีน
พินตัวตัวมีบริษัทพีดีดีโฮลดิงส์ (PDD Holdings) เป็นเจ้าของ บริษัทแห่งนี้ยังเป็นเจ้าของ Temu แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มุ่งขายสินค้าราคาถูกอย่างมากอีกด้วย โดยพีดีดีโฮลดิงส์เคยถูกพวกพ่อค้าใน Temu ประท้วงเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมมาแล้ว
ต่อมาในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อสาธารณชนอีกงานหนึ่ง นายจงได้กล่าวโทษแอปพลิเคชันของบริษัทไบต์แดนซ์อย่างโถวเถี่ยว และโต่วอินว่า ไม่ทำอะไรเพิ่มเติมเพื่อหยุดยั้งข่าวลือที่มุ่งให้ร้ายเขาในสื่อสังคมออนไลน์ โดยนายจงต้องการให้นายจาง อี้หมิง ผู้ก่อตั้งไบต์แดนซ์ออกมากล่าวขอโทษเขาด้วยตัวเอง
“ผมหวังว่านายจาง อี้หมิง, โต่วอิน, โถวเถี่ยว และสื่อทั้งหมดที่ทำให้ผมรู้สึกแย่ด้วยข่าวลือจะออกมาขอโทษ” เขากล่าว “ผมกำลังรอคำขอโทษอย่างจริงใจจากพวกคุณอยู่! ผมกำลังรออยู่” เขาระบุ
เมื่อต้นปีนี้น้ำดื่มบรรจุขวดแบรนด์ “หนงฟู สปริง” ถูกผู้บริโภคชาวจีนซึ่งเป็นพวกชาตินิยมบอยคอต โดยมองว่ารูปแบบบรรจุภัณฑ์สินค้าโน้มเอียงไปในทางนิยมญี่ปุ่น ปรากฏการณ์ทัวร์ลงแบรนด์ “หนงฟู สปริง” ทำให้เกิดการถกเถียงกันว่าใครควรเป็นผู้รับผิดชอบต่อการสร้างกระแสปลุกปั่นความรู้สึกชาตินิยม ควรเป็นรัฐบาลจีน ผู้นำทางความคิด หรือสื่อสังคมออนไลน์ แต่นายจงเป็นนักธุรกิจคนแรกที่ชี้หน้าตำหนิแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างเปิดเผยในเรื่องนี้ โดยระบุว่าหากแพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตไม่ได้รับการตรวจสอบ แพลตฟอร์มเหล่านี้จะสร้างความเสียหายได้มากกว่าใครๆ
คอลิน หวงแห่งพีดีดี และจาง อี้หมิงแห่งไบต์แดนซ์ มักติดทำเนียบมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของจีนอยู่เสมอ โดยในการจัดอันดับมหาเศรษฐีจีนของสำนักจัดอันดับหูรุ่นซึ่งเผยแพร่เมื่อสิ้นเดือนตุลาคมนั้น จาง อี้หมิงคือบุคคลร่ำรวยที่สุดในจีนด้วยทรัพย์สินส่วนตัว 49,300 ล้านดอลลาร์ ขณะที่จง สานส่านอยู่ในอันดับที่ 2 ด้วยทรัพย์สิน 47,900 ล้านดอลลาร์
ที่มา : รอยเตอร์/เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์