นายหลิว เหลียงเก๋อ อดีตประธานธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China) จำเลยในคดีรับสินบนและปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมาย ถูกศาลในมณฑลซานตงตัดสินประหารชีวิตเมื่อวันอังคาร (26 พ.ย.) แต่ให้รอลงอาญาไว้ก่อนเป็นเวลา 2 ปี
ธนาคารแห่งประเทศจีนเป็นธนาคารพาณิชย์ใหญ่ 1 ใน 4 แห่งที่รัฐบาลจีนเป็นเจ้าของ
การตัดสินดังกล่าวของศาลหมายความว่า นายหลิวถูกจำคุกตลอดชีวิต โดยโทษประหารชีวิตจะมีผลบังคับใช้ก็ต่อเมื่อเขามีการกระทำความผิดทางอาญาอีกในระหว่าง 2 ปีนี้
อดีตประธานธนาคารแห่งประเทศจีนผู้นี้ปัจจุบันอายุ 63 ปี เคยทำงานในสถาบันการเงินและการธนาคารหลายแห่ง รวมถึงธนาคารประชาชนจีน ซึ่งเป็นธนาคารกลาง และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน ต่อมาได้รับแต่งตั้งดำรงตำแหน่งประธานธนาคารแห่งประเทศจีนในปี พ.ศ.2562
ทว่าเส้นทางชีวิตการทำงานกลับต้องมัวหมองด้วยเรื่องทุจริต โดยเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว นายหลิวถูกพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเป็นผู้ปกครองประเทศสั่งขับออกจากพรรคด้วยข้อกล่าวหากระทำสิ่งผิดกฎหมายและรับสินบน
หน่วยงานปราบปรามการทุจริตแดนมังกรเปิดฉากกวาดล้างการทุจริตในภาคการเงินครั้งใหญ่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สามารถจับกุมบุคคลระดับบิ๊กของประเทศได้หลายคน เช่น นายหลิว และนายฟาน อี้เฟย อดีตรองผู้ว่าการธนาคารกลาง โดยนายฟานผู้นี้ถูกตัดสินประหารชีวิตเมื่อเดือนตุลาคม แต่ให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปีเช่นกัน
ศาลระบุว่า นายหลิวอาศัยตำแหน่งหน้าที่การงานของตนแสวงหาผลประโยชน์โดยเรียกรับเงินทองเพื่อแลกกับการหาตำแหน่งงานให้คนจำนวนมาก เงินสินบนที่รับมานั้นมีจำนวน "มหาศาล" มากถึงกว่า 121 ล้านหยวน (ราว 578 ล้านบาท) ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ CCTV ซึ่งเป็นสื่อของรัฐ
เนื่องจากนายหลิวยอมรับสารภาพตามความจริง ประกอบกับเงินและทรัพย์สินที่ขโมยไปนำกลับคืนมาได้เป็นส่วนใหญ่ ศาลจึงเห็นว่า ยังไม่ควรลงโทษประหารชีวิตในทันที
CCTV ยังรายงานด้วยว่า ขณะดำรงตำแหน่งที่ธนาคารส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน นายหลิวได้ละเมิดกฎหมายด้วยการอนุมัติสินเชื่อมูลค่ากว่า 3,320 ล้านหยวน (ราว 15,869 ล้านบาท) ทำให้ธนาคารต้องประสบการขาดทุนไปกว่า 190 ล้านหยวน (ราว 908 ล้านบาท)
ที่มา : รอยเตอร์