xs
xsm
sm
md
lg

ซีอีโอ Xpeng ฟันธง ทศวรรษหน้าเหลือผู้ผลิตอีวีจีนแค่ 7 บริษัทใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เหอ เสี่ยวเผิง ซีอีโอของบริษัทเอ็กซ์เผิงมอเตอร์ เข้าร่วมการแถลงข่าวก่อนงาน Shanghai Auto Show ในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เมื่อเดือนเมษายน 2566 - ภาพ : รอยเตอร์
จีนเป็นตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ( อีวี ) ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่นายเหอ เสี่ยวเผิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งเอ็กซ์เผิง ไม่คิดว่าบริษัทผู้ผลิตอีวีจีนส่วนใหญ่จะสามารถอยู่รอดได้ในอีก 10 ปีข้างหน้า
 
จากบริษัทสตาร์ทอัป 300 แห่ง อยู่รอดแค่ 100 แห่ง และปัจจุบันมีบริษัทอยู่ไม่ถึง 50 แห่ง  ซึ่งมีเพียง 40 แห่งเท่านั้นที่ยังขายรถได้จริงทุกปี นายเหอให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดอะสเตรตส์ไทมส์ของสิงคโปร์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

 
“โดยส่วนตัวผมคิดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าจะมีบริษัทรถยนต์รายใหญ่เพียง 7 แห่งเท่านั้นที่ยังดำรงอยู่ได้” เขาระบุ แต่มิได้ให้รายละเอียดว่ามีใครบ้าง


นี่มิใช่ครั้งแรกที่ซีอีโอของค่ายรถอีวีชั้นนำของจีนอย่างเอ็กซ์เผิงออกมาทำนายในลักษณะนี้

ในการให้สัมภาษณ์สถานีข่าว CNA ของสิงคโปร์เมื่อเดือนมีนาคม นายเหอระบุว่า อีก 3-4 ปีข้างหน้าอุตสาหกรรมอีวีจีนจะเห็น “การแข่งขันแบบน็อกเอาต์” ตามมาด้วยแข่งขันเข้มข้นระหว่างผู้เล่นระดับมีชื่อเสียง


การที่ใครจะชนะได้ในปี พ.ศ.2573 จะขึ้นอยู่กับ "ความสามารถ" และ "ศักยภาพความเป็นไปได้" ของผู้เล่นเหล่านี้

 
“อุตสาหกรรมรถยนต์เป็นเหมือนการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่แค่วิ่งระยะสั้น” เขากล่าวกับ CAN


รถยนต์พลังงานไฟฟ้าค่ายเอ็กซ์เผิงจัดแสดงในงาน China International Supply Chain Expo(CISCE) ในกรุงปักกิ่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 - ภาพ : รอยเตอร์
โอลา เคลเลเนียส ซีอีโอของเมอร์เซเดส-เบนซ์ มองคล้ายๆ กัน เมื่อถูกถามเรื่องภัยคุกคามจากผู้ผลิตอีวีจีนในงานประชุมเบอร์ลินโกลบอลไดอะล็อกเมื่อเดือนตุลาคม

“มันแปลกครับ เป็นสงครามราคาเหมือนทฤษฎีดาร์วิน การทำให้ตลาดบริสุทธิ์ และผู้เล่นที่อยู่มาจนถึงทุกวันนี้จะมีหลายเจ้าที่จะไม่ได้อยู่ต่ออีกเลยในอีก 5 ปีข้างหน้า” เคลเลเนียส กล่าว


ทั้งนี้ จีนเป็นผู้นำด้านอีวีได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากรัฐบาลให้เงินอุดหนุนจำนวนมากแก่บริษัทผู้ผลิตเพื่อช่วยลดต้นทุนและส่งเสริมการเป็นผู้ประกอบการ แต่กลับกลายเป็นว่าทำให้การแข่งขันภายในประเทศเข้มข้นมากขึ้น


สตีเฟ่น ไดเออร์ ที่ปรึกษาด้านรถยนต์ของแอลิกซ์พาร์ตเนอร์ส (AlixPartners) ระบุกับเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลเมื่อเดือนเมษายนว่า ในปี 2566 มีแบรนด์ที่ขายอีวีได้อย่างน้อยหนึ่งคันบนจีนแผ่นดินใหญ่รวมทั้งหมด 123 แบรนด์


ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตรถยนต์จีน เช่น บีวายดีก็พยายามที่จะพิชิตตลาดอีวีระดับโลกเช่นกัน


จากข้อมูลที่รวบรวมโดยเอบีไอ รีเสิร์ช พบว่าผู้ผลิตรถยนต์จีนมีส่วนแบ่งตลาดอีวี 70% ในประเทศไทย และ 88% ในบราซิลในไตรมาสแรกของปีนี้ 


ในการประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 เมื่อเดือนที่แล้ว บีวายดีเปิดเผยรายได้จากการขายอีวีแซงหน้าบริษัทเทสลาของอเมริกาได้เป็นครั้งแรก

ที่มา : บิสซิเนสอินไซเดอร์



กำลังโหลดความคิดเห็น