นักบินอวกาศจีนที่ปฏิบัติภารกิจบนยานเสินโจว-19 จะทำการวิจัยผลกระทบร่วมกันของสนามแม่เหล็กและแรงโน้มถ่วงต่ำต่อแมลงหวี่ในช่วงเวลา 6 เดือนบนสถานีอวกาศจีน โดยเป็นครั้งแรกที่จีนได้นำแมลงขนาดเล็กชนิดนี้ขึ้นสู่อวกาศ
แมลงหวี่เป็นสายพันธุ์ต้นแบบที่ใช้ในการทดลองทางพันธุกรรมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีขนาดเล็กเพียง 3-4 มิลลิเมตร มีวงจรชีวิตสั้น และสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผลิตลูกหลานจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น
เจิ้ง เว่ยปั๋ว นักวิจัยจากสถาบันฟิสิกส์เทคนิคเซี่ยงไฮ้ สังกัดสถาบันวิทยาศาสตร์จีน และหัวหน้าผู้ออกแบบระบบการทดลองทางชีววิทยาและนิเวศวิทยาบนสถานีอวกาศจีน กล่าวว่า “การทดลองแมลงหวี่ในสภาวะแรงแม่เหล็กต่ำในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อศึกษากลไกระดับโมเลกุลของแมลงหวี่ในสภาพแวดล้อมที่มีแรงโน้มถ่วงต่ำและแรงแม่เหล็กต่ำ รวมถึงลักษณะการเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงของจังหวะชีวภาพที่อาจเกิดขึ้น”
ตามข้อมูลของเจิ้ง การทดลองแมลงหวี่ในสถานีอวกาศที่ผ่านมาเน้นไปที่ผลกระทบทางชีวภาพจากแรงโน้มถ่วงต่ำหรือรังสีเท่านั้น แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ศึกษาผลกระทบของสนามแม่เหล็กและแรงโน้มถ่วงต่ำร่วมกัน
“สนามแม่เหล็กมีผลกระทบอย่างสำคัญต่อสิ่งมีชีวิต ในอนาคตเมื่อมีการสำรวจอวกาศลึก เราจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แรงแม่เหล็กต่ำ ขณะที่ในวงโคจรต่ำของโลก เรายังได้รับอิทธิพลจากสนามแม่เหล็กโลก ดังนั้น เราได้สร้างสภาพแวดล้อมที่แรงแม่เหล็กต่ำในสถานีอวกาศ ขณะเดียวกัน ก็รักษาสภาพแวดล้อมที่มีสนามแม่เหล็กโลกไว้เพื่อเปรียบเทียบ ในการทดลองครั้งนี้ เรามี 4 กลุ่มทดลองสำหรับการเปรียบเทียบ ได้แก่ สภาพแวดล้อมแรงแม่เหล็กต่ำและสนามแม่เหล็กโลกภายใต้แรงโน้มถ่วงต่ำ และสภาพแวดล้อมแรงแม่เหล็กต่ำและสนามแม่เหล็กโลกภายใต้แรงโน้มถ่วงปกติบนโลก เพื่อศึกษาผลกระทบร่วมกันของแรงโน้มถ่วงต่ำในอวกาศและสนามแม่เหล็กต่ำต่อสิ่งมีชีวิต” เจิ้งกล่าว
แมลงหวี่เป็นหนึ่งในชุดอุปกรณ์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกบรรทุกโดยยานขนส่งเทียนโจว-8 ซึ่งประสบความสำเร็จในการเชื่อมต่อกับสถานีอวกาศเทียนกงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามรายงานจากสำนักงานโครงการอวกาศมนุษย์จีน (CMSA)
ที่มา/ภาพ สำนักข่าวซีซีทีวี