อาลีบาบา บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน เปิดเผย (12 พ.ย.) ผลลัพธ์จากเทศกาลลดราคาวันคนโสด (Singles’ Day) หรือ "เทศกาลชอปปิ้ง 11.11" ปีนี้ โดยรายงานว่ามีจำนวนผู้ซื้อเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทไม่ได้เปิดเผยยอดขายรวมทั้งหมด ขณะที่มีแบรนด์ชื่อดังอย่าง Apple, Haier, Midea และ Xiaomi ซึ่งทำยอดขายเกิน 1 พันล้านหยวน (ประมาณ 4.83 พันล้านบาท) สะท้อนถึงความต้องการสูงในสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าราคาสูง
JD.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่อันดับ 2 ของจีน รายงานจำนวนผู้ซื้อเพิ่มขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ข้อมูลจาก Syntun ผู้ให้บริการข้อมูลอีคอมเมิร์ซคาดการณ์ว่า ยอดขายรวมจากแพลตฟอร์มต่างๆ ในช่วงเทศกาลวันคนโสดปีนี้เพิ่มขึ้น 26.6% คิดเป็นยอดขายรวมกว่า 1.44 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 6.94 ล้านล้านบาท) โดยเทศกาลนี้ยาวนานขึ้นจากการลดราคา 24 ชั่วโมงในวันที่ 11 พฤศจิกายน มาเป็นกิจกรรมลดราคาที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม ทำให้วันคนโสดในปีนี้เป็นเทศกาลลดราคาที่ยาวนานที่สุดเท่าที่เคยมีมา
แม้ว่ามหกรรมวันคนโสดในปีนี้จะยังคงได้รับความนิยม แต่ระดับความเชื่อมั่นในการจับจ่ายยังค่อนข้างต่ำเนื่องจากเศรษฐกิจจีนยังคงเผชิญกับความท้าทาย โดยเฉพาะปัญหาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลักๆ อย่าง อาลีบาบา และเจดี ดอท คอม (JD.com) ได้ใช้กลยุทธ์ในการออกส่วนลดพิเศษ เช่น การให้คูปองคืนเงิน 50 หยวนเมื่อซื้อสินค้ามูลค่า 300 หยวน เพื่อดึงดูดผู้ซื้อ ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคจีนก็นิยมใช้บริการแพลตฟอร์มที่เน้นลดราคาหนัก เช่น พินตัวตัว (Pinduoduo) และ โต่วอิน (Douyin) เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า ส่วนลดพิเศษนี้อาจทำให้ยอดขอคืนสินค้าสูงขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคบางรายซื้อสินค้าหลายรายการเพื่อรับส่วนลด จากนั้นจึงยกเลิกบางรายการหลังจากทำการซื้อ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาด้านการจัดการคืนสินค้าที่แพลตฟอร์มหลายแห่งต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้
แม้ว่ารัฐบาลจีนจะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งช่วยให้ตลาดหุ้นในจีนฟื้นตัวขึ้นก่อนวันคนโสดนี้ แต่ผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลยังคงจำกัด โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่า มาตรการกระตุ้นดังกล่าวอาจจะมีบทบาทที่ชัดเจนมากขึ้นในเทศกาลลดราคากลางปีในปีหน้า
หนึ่งในกลุ่มสินค้าที่เติบโตได้ดีในปีนี้คือเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โดยได้รับอานิสงส์จากนโยบายกระตุ้นการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ที่รัฐบาลจีนประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งมีมูลค่า 150 พันล้านหยวน กลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศประหยัดพลังงาน หุ่นยนต์ดูดฝุ่น และสุขภัณฑ์อัจฉริยะ
นอกจากสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว ของเล่นสะสมก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่มีการเติบโตอย่างไม่คาดคิดในปีนี้ โดยเฉพาะสินค้าจากการ์ตูน อนิเมะ และเกมยอดนิยม ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มเยาวชนชาวจีน แบรนด์อย่าง MiHoYo, Pop Mart, Paperpresented และ Jellycat สามารถทำยอดขายรวมกันกว่า 100 ล้านหยวน ของสะสมเหล่านี้ไม่ได้เพียงตอบสนองความชื่นชอบของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังช่วยให้พวกเขาผ่อนคลายจากความเครียดในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะนักเรียนและนักศึกษา
หนึ่งในผู้ซื้อวัย 23 ปีจากหางโจว กล่าวว่า การซื้อของเล่นสะสมและสินค้าจากเกมโปรด เช่น ‘League of Legends’ และอนิเมะเรื่อง ‘Noragami’ และ ‘Banana Fish’ เป็นวิธีในการปลดปล่อยความเครียดจากการเรียนวิศวกรรมที่หนักหน่วง เธอมองว่าการสะสมและซื้อสินค้าของเล่นเหล่านี้เป็นหนึ่งในวิธีการจัดการอารมณ์ที่ได้ผล
ที่มา กลุ่มสื่อต่างประเทศ/ภาพ เอเอฟพี