รัฐบาลจีนเตรียมขายพันธบัตรมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียในสัปดาห์หน้าตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน ตามการแถลงของกระทรวงการคลังของจีนเมื่อวันอังคาร (5 พ.ย.)
ถือเป็นการออกตราสารหนี้สกุลเงินดอลลาร์ครั้งแรกของจีนนับตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา และการเลือกสถานที่คือซาอุฯ ย่อมแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่กระชับแน่นแฟ้นระหว่างพญามังกรกับชาติมหาอำนาจในภูมิภาคตะวันออกกลางแห่งนี้
แผนการดังกล่าวของจีนอาจเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและตลาดการเงินกับราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างหนึ่ง
นายลินน์ ซ่ง (Lynn Song) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำจีนแผ่นดินใหญ่ของ ING Bank N.V. มองว่า เป็นการเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมการบริการทางการเงินระหว่างกัน นอกจากนั้น การระดมทุนด้วยสกุลเงินหยวนซึ่งค่าเงินถูกกว่าอาจสร้างแรงจูงใจที่จำกัด
ทั้งนี้ จีน-ซาอุฯ มีการลงทุนร่วมกันเพิ่มขึ้น หลังจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเยือนกรุงริยาดในปี 2565 โดยผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของจีนได้เพิ่มการลงทุนในซาอุฯ เป็น 2 เท่า ส่วนกองทุนความมั่งคั่งของซาอุฯ ก็เข้าซื้อหุ้นในบริษัทจีนบางแห่ง รวมถึงบริษัทเลโนโวกรุ๊ป จำกัด นอกจากนั้น กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) 2 แห่ง ซึ่งติดตามดัชนีในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและจีนมีการเปิดตัวในซาอุฯ เมื่อเดือนที่แล้ว
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา จีนออกพันธบัตรมูลค่า 2,000 ล้านยูโรในกรุงปารีส ถือเป็นการขายพันธบัตรสกุลเงินยูโรครั้งแรกในรอบ 3 ปี ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน โดยที่นโยบายหลักของธนาคารกลางระดับโลกยังช่วยลดเบี้ยประกันความเสี่ยงได้อีกด้วย
เซอร์ลิน่า เจิง (Zerlina Zeng) หัวหน้าฝ่ายวิจัยบริษัทแถบเอเชียตะวันออกของ Creditsights Singapore LLC คาดการณ์ว่า จีนอาจเข้าสู่ตลาดพันธบัตรดอลลาร์อีกครั้งในปีหน้าเพื่อรีไฟแนนซ์พันธบัตรที่ครบกำหนด และเนื่องจากในปีหน้ายังเป็นช่วงที่ต้นทุนการระดมเงินดอลลาร์อาจมีแนวโน้มลดลงตามวัฏจักรการผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐฯ นอกจากนี้ จีนอาจกระจายการขายพันธบัตรในรูปสกุลเงินอื่นๆ ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว 10 ประเทศ (G10) และชาติตลาดเกิดใหม่ หรือรูปสกุลเงินหยวนที่ใช้กันนอกประเทศจีน (offshore yuan) อันเป็นการระดมทุนเพื่อแยกขาดจากการพึ่งพิงเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นสิ่งที่จีนกำลังดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
ที่มา : บลูมเบิร์ก/อาหรับนิวส์