จีนเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์สี่ขาของจีน โดยเฉพาะในด้านระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ และความสามารถทางปัญญาประดิษฐ์
ในปัจจุบัน มีหลายบริษัทและสถาบันวิจัยในจีนที่พัฒนาและผลิตหุ่นยนต์สี่ขา โดยมีการนำไปใช้งานจริงในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การตรวจตราในสวนอุตสาหกรรมเคมี และการกู้ภัยจากอัคคีภัย
ปักกิ่งได้ติดตั้งหุ่นยนต์สุนัขจำนวน 6 ตัวในอุโมงค์สายเคเบิลใต้ดิน เพื่อทำการตรวจสอบและดูแลอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่หุ่นยนต์สุนัขที่พัฒนาโดยบริษัท Unitree Robotics ในเมืองหางโจว กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบการแบกของบนภูเขาไท่ซาน ซึ่งเป็นมรดกโลกของยูเนสโก โดยหุ่นยนต์เหล่านี้มีภารกิจเพื่อช่วยลดภาระการขนขยะบนภูเขาแทนมนุษย์
จิน ต้า ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ Unitree Robotics กล่าวว่า หุ่นยนต์แต่ละตัวสามารถแบกน้ำหนักได้สูงสุด 120 กิโลกรัมเมื่ออยู่นิ่งๆ และสามารถแบกน้ำหนักได้ประมาณ 40-45 กิโลกรัมขณะเคลื่อนที่บนภูเขา หุ่นยนต์สุนัขสามารถทำงานต่อเนื่องได้ 4-6 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว
หุ่นยนต์เหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถเคลื่อนที่บนพื้นที่ขรุขระ ลื่น หรือปีนบันไดได้อย่างมั่นคง และยังสามารถข้ามสิ่งกีดขวางที่สูงถึง 40 เซนติเมตรได้อย่างง่ายดาย
ปัญหาที่อุตสาหกรรมกำลังเผชิญอยู่ คือการพัฒนาระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น และเพิ่มความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์ให้สูงขึ้นอีก โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนจากการขับเคลื่อนด้วยแบบจำลองสู่การขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เช่นเดียวกับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ หุ่นยนต์เหล่านี้จะสามารถรับรู้และโต้ตอบกับสภาพแวดล้อมได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้นในอนาคต
ผู้เชี่ยวชาญยังระบุอีกว่า อุตสาหกรรมหุ่นยนต์สี่ขาของจีนจำเป็นต้องลดต้นทุนการผลิต โดยการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ เช่น เซ็นเซอร์ และเรดาร์เลเซอร์
จากข้อมูลในปี 2023 จีนเป็นประเทศผู้ผลิตหุ่นยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดผลิตหุ่นยนต์บริการถึง 7.833 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 21.3% จากปีก่อน และในปีเดียวกัน จีนยังผลิตหุ่นยนต์อุตสาหกรรมถึง 430,000 ชุด คิดเป็น 73% ของยอดผลิตทั่วโลก
ที่มา/ภาพ สำนักข่าวซีซีทีวี