โอเปก (OPEC) กลุ่มชาติผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก ต้องปรับลดประมาณการอุปสงค์น้ำมันโลกประจำปี 2567 เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันแล้ว เพราะการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของจีนเป็นเหตุ
ปริมาณความต้องการน้ำมันในจีนมีการเติบโตลดลง เป็นผลจากการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (อีวี) พุ่งสูง ยอดขายรถยนต์ดีเซลลดลง นอกจากนั้น จีนยังเพิ่มการใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงสะอาดสำหรับการขนส่งทางรถบรรทุก ประกอบกับการเติบโตที่ช้าเกินคาดของเศรษฐกิจจีนก็มีส่วน
ทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุในรายงานแนวโน้มพลังงานโลก 2567 (World Energy Outlook 2024) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การเพิ่มขึ้นของรถอีวีในจีนทำให้โอเปกสับสน
ทั้งนี้ เมื่อข้อมูลจริงเกี่ยวกับการใช้น้ำมันเริ่มมาถึงในช่วงกลางปีนี้ โอเปกจึงเริ่มปรับประมาณการ โดยในรายงานตั้งแต่เดือนสิงหาคม กันยายน และตุลาคม โอเปกส่งสัญญาณว่า ได้ประเมินการเติบโตอุปสงค์น้ำมันของจีนในแง่ดีเกินไปในตอนที่เผยแพร่รายงานแนวโน้มสำหรับปี 2567 ครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2566
ในรายงานประจำเดือนตุลาคมล่าสุด โอเปกได้ปรับลดประมาณการสำหรับจีน โดยคาดว่าในปีนี้ความต้องการน้ำมันของจีนจะเติบโตวันละ 580,000 บาร์เรล ลดลงจากที่เคยประเมินไว้ในรายงานเดือนกันยายนที่วันละ 650,000 บาร์เรล โดยจีนมีสัดส่วนมากที่สุดในการปรับลดการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันโลกในปี 2567 ของโอเปก
"จีนเป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดน้ำมันในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันเครื่องจักรนั้นได้เปลี่ยนมาใช้ไฟฟ้าแทน" IEA ระบุ
ที่มา : OilPrice.com
