เหตุระเบิดเพจเจอร์ และวอล์กกี้ทอล์กกี้ในเลบานอนเมื่อเดือนก่อนทำให้ชาติตะวันตก “หมดความน่าเชื่อถือ” และเลบานอนจะเริ่มนำเข้าอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่จากจีนมากขึ้น กลุ่มธุรกิจในเลบานอนระบุ
นายอาลี อัล อับดุลเลาะห์ ประธานสมาคมธุรกิจเลบานอน-จีน ให้สัมภาษณ์สถานีข่าวไชน่าโกลบอลเทเลวิชันเน็ตเวิร์ก ของทางการจีนเมื่อวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ว่า ประเทศของตนกับอีกหลายชาติจะลดการซื้อสินค้าเทคโนโลยีจากชาติตะวันตก และ “หันไปหาเทคโนโลยีจากตะวันออก” เนื่องจากกังวลความปลอดภัย พร้อมกับระบุด้วยว่าบริษัทชาติตะวันตกจะเสียหายครั้งใหญ่
“สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนสำหรับเลบานอนและโลก” เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางการจีนยังไม่มีการยืนยันเรื่องที่เลบานอนจะเพิ่มการนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากจีน
เหตุระเบิดเพจเจอร์ และวอล์กกี้ทอล์กกี้ ซึ่งกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนเป็นเวลา 2 วัน มีผู้เสียชีวิตหลายสิบ บาดเจ็บหลายพันคน รวมถึงพลเรือน เชื่อกันว่าเป็นฝีมือของอิสราเอลชาติเพื่อนบ้าน เพื่อสังหารสมาชิกฮิซบอลเลาะห์ซึ่งอิหร่านหนุนหลัง แต่อิสราเอลไม่ยอมรับตรงๆ
สื่อรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกาและชาติอื่นๆ ที่ระบุว่า อิสราเอลได้ซุกซ่อนวัตถุระเบิดไว้ในเพจเจอร์จำนวนหนึ่ง ผลิตโดยบริษัทของไต้หวัน ก่อนถูกส่งไปยังเลบานอน
จีนเป็นชาติคู่ค้ารายใหญ่สุดของเลบานอน มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 2,440 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว และ 1,140 ล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 โดยเลบานอนนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รองเท้า เสื้อผ้า และเฟอร์นิเจอร์จากจีน ส่วนสินค้าที่ส่งออกไปยังจีนมีทองแดง น้ำมันมะกอก แอลกอฮอล์ ถั่ว เครื่องสำอางและอัญมณี
นายอัล อับดุลเลาะห์ ระบุว่า สงครามกับอิสราเอลทำให้ปริมาณการค้ากับจีนลดลง แต่ยังดีที่บริษัทของจีนบางแห่งยังคงอยู่ในเลบานอน ไม่อพยพไปพร้อมกับพลเมืองจีนกว่า 200 คนเมื่อต้นเดือน
เหตุโจมตีอิสราเอลโดยกลุ่มปาเลสไตน์ฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ได้จุดไฟสู้รบครั้งใหญ่ขึ้นในฉนวนกาซาฐานที่มั่นของฮามาส ต่อมากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ซึ่งเป็นฝ่ายเดียวกับฮามาส ได้ยิงขีปนาวุธถล่มตอนเหนือของอิสราเอล บีบให้อิสราเอลทำศึกสองด้าน โดยหลังจากเหตุเพจเจอร์มรณะ การต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ก็ทวีความรุนแรงจนวิตกกันว่าอาจยกระดับกลายเป็นสงครามในภูมิภาคในที่สุด
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์