ยานยนต์คันที่ 3 ล้าน ที่ผลิตโดยโรงงานเซี่ยงไฮ้ กิกะแฟคทอรีของเทสลา (Tesla) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ ได้ออกจากสายการผลิตในเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีนแล้วเมื่อวันศุกร์ (11 ต.ค.) ที่ผ่านมา นับเป็นก้าวสำคัญครั้งใหม่ ท่ามกลางคำมั่นสัญญาของเทสลาว่าจะเติบโตไปพร้อมกับภาคอุตสาหกรรมพลังงานใหม่ของจีน
เทสลาระบุว่า ยานยนต์รุ่นโมเดล วาย (Model Y) ซึ่งเป็นยานยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าเต็มรูปแบบเคลื่อนตัวออกจากสายการผลิตตอนเวลา 18.00 น.
โรงงานเซี่ยงไฮ้ กิกะแฟคทอรี ถือเป็นโรงงานกิกะแฟคทอรีนอกสหรัฐฯ แห่งแรกของเทสลา เริ่มดำเนินงานก่อสร้างเมื่อเดือนมกราคม 2019 และผลิตยานยนต์คันแรกออกมาช่วงเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน
รายงานระบุว่า โรงงานเทสลาในเซี่ยงไฮ้ใช้เวลามากกว่า 30 เดือนสำหรับการผลิตรถยนต์ 1 ล้านคันแรกของบริษัท และใช้เวลาประมาณ 13 เดือนในการเพิ่มปริมาณการผลิตจาก 2 ล้านคันเป็น 3 ล้านคัน
เทสลาเผยว่าช่วง 3 ไตรมาสแรก (มกราคม-กันยายน) ของปี 2024 โรงงานเทสลาในเซี่ยงไฮ้ได้ส่งมอบยานยนต์จำนวน 675,000 คัน ครองสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของการส่งมอบยานยนต์ของเทสลาทั่วโลกในช่วงเวลาเดียวกัน
เทสลาระบุว่า ยานยนต์ 1 ใน 3 จากจำนวนทั้งหมด 3 ล้านคันที่ผลิตออกมานั้นได้ถูกจัดจำหน่ายไปยังตลาดนอกแผ่นดินใหญ่ของจีน อันรวมถึงประเทศในยุโรป และในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ทั้งนี้ เทสลาได้วางศิลาฤกษ์เปิดตัวโครงการโรงงานขนาดใหญ่ในเซี่ยงไฮ้เพื่อผลิตเมกะแพก (Megapacks) เป็นแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานของบริษัท เมื่อเดือนพฤษภาคม โดยคาดว่าโรงงานแห่งใหม่นี้จะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) ของปี 2025