xs
xsm
sm
md
lg

New China Insights : เทรนด์ใหม่กับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์จีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


หุ่นยนต์ walker ถูกทดสอบให้ทำงานในโรงงานรถยนต์แห่งหนึ่งในจีน (ภาพจาก shanghai observer)
โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล

ประเทศที่มุ่งหน้าในด้านอุตสาหกรรมปัจจุบันต่างพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีแห่งอนาคตนั่นก็คือ “หุ่นยนต์อัจฉริยะ” ซึ่งผู้เขียนมองว่าในอนาคตไม่เกิน 10 ปี หุ่นยนต์จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการผลิตของโรงงานต่างๆ หรือการใช้หุ่นยนต์ในงานบริการและช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน จีนเป็นอีกหนึ่งประเทศที่อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยในปัจจุบันได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการผลักดันของรัฐบาล หุ่นยนต์มีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงกระบวนการผลิตในหลายภาคส่วน เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และโลจิสติกส์ เป็นต้น ในด้านของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ถูกนำมาใช้เพื่อลดความผิดพลาด เพิ่มความแม่นยำ และประสิทธิภาพในการผลิต

รัฐบาลจีนมีแผนพัฒนาอุตสาหกรรมที่เรียกว่า "Made in China 2025" ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้จีนเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง และหุ่นยนต์เป็นหนึ่งในกลุ่มเทคโนโลยีหลักในแผนนี้ ในด้านของนวัตกรรมและการลงทุน จีนยังเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรมด้านหุ่นยนต์ โดยมีการลงทุนขนาดใหญ่ด้านวิจัยและพัฒนา รวมถึงการสร้างระบบหุ่นยนต์ที่มีความสามารถในการเรียนรู้และปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์

หุ่นยนต์ในปัจจุบันที่ถูกพัฒนาหลักๆ มี 2 ประเภทด้วยกันคือ หุ่นยนต์อุตสาหกรรม ตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรมในจีนเป็นหนึ่งในตลาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีบริษัทจีนและต่างชาติที่ทำงานร่วมกัน เช่น KUKA, ABB และ Fanuc แต่จีนมีบริษัทที่พัฒนาหุ่นยนต์ของตัวเอง เช่น Siasun และ Estun และหุ่นยนต์บริการ เช่น หุ่นยนต์ที่ใช้ในร้านอาหาร โรงแรม และคลังสินค้า เป็นต้น

จนถึงเดือน ก.ค. ปี 2024 จีนถือครองสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับหุ่นยนต์มีมากกว่า 190,000 รายการ คิดเป็นสัดส่วนประมาณสองในสามของสิทธิบัตรหุ่นยนต์ทั่วโลก จีนยังเป็นตลาดหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นเวลา 11 ปี โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี้ การติดตั้งหุ่นยนต์ใหม่ในจีนมีสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของการติดตั้งทั่วโลก ปัจจุบันหุ่นยนต์ประเภทบริการในจีนเริ่มถูกนำมาใช้ในงานบริการภายในครัวเรือน การดูแลสุขภาพ และการดูแลผู้สูงอายุ (ยังเริ่มต้นและยังไม่แพร่หลาย) ขณะที่หุ่นยนต์เฉพาะทางมีบทบาทสำคัญในด้านการสำรวจทางอากาศและทางทะเล ทางการทหาร รวมถึงการช่วยเหลือฉุกเฉินในกรณีต่างๆ ในจีน

งานนิทรรศการแสดงหุ่นยนต์ของปักกิ่งในปี 2024 หุ่นยนต์เสมือนมนุษย์กำลังทำการขนย้ายสิ่งของ (ภาพจากสื่อจีน Huanqiu wang)
ในงานประชุมหุ่นยนต์โลกปี 2024 ที่จัดขึ้นที่ปักกิ่ง หุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากกลายเป็นจุดเด่นสำคัญ มีชื่อว่าหุ่นยนต์ "เทียนกง" ที่เป็นหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้งตัว ได้แสดงความสามารถวิ่งแบบเลียนแบบมนุษย์ และยังโชว์ทักษะใหม่ๆ ในขณะเดียวกันหุ่นยนต์ Walker S Lite ได้เข้าสู่การฝึกงานในโรงงานอุตสาหกรรมยานยนต์ สามารถทำการตรวจสอบคุณภาพรถยนต์ภายในไม่กี่วินาที และสามารถเก็บผลไม้หนึ่งผลได้ในเวลาเพียง 2 วินาที มีหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ 27 รุ่นที่มีฟังก์ชันต่างกันออกแสดงอยู่ในงานครั้งนี้ 

ด้วยโมเดลอัจฉริยะที่เสริมทักษะทางกายภาพของหุ่นยนต์รุ่นใหม่ๆ ทำให้มีความสามารถในการรับรู้ ปฏิสัมพันธ์ ความเข้าใจในภารกิจ และการปฏิบัติภารกิจต่างๆ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หุ่นยนต์เสมือนมนุษย์กำลังค่อยๆ ซึมซับเข้าสู่การใช้งานในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และการท่องเที่ยววัฒนธรรม ยุคของการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์กำลังเริ่มต้นขึ้น

จากข้อมูลของสถาบันวิจัยที่เกี่ยวข้องด้านเทคโนโลยีของจีนระบุว่า ในปี 2023 อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ได้เข้าสู่ช่วงเบ่งบาน โดยคาดว่าในปี 2026 ขนาดของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ในจีนจะมีมากกว่า 20,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยในอนาคตหุ่นยนต์ที่ทำงานได้เหมือนมนุษย์จะกลายเป็นกระแสหลักและมีศักยภาพในการพัฒนาที่มหาศาล

ในปัจจุบัน การพัฒนาทางเทคโนโลยีทั่วโลกได้เข้าสู่ช่วงที่มีนวัตกรรมเกิดขึ้นอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง เทคโนโลยีข้อมูลรุ่นใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ วัสดุใหม่ และพลังงานใหม่ ได้แทรกซึมเข้าไปในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้วกำลังมีการวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์กันอย่างเข้มข้น ยกตัวอย่างเช่น บริษัทระดับโลกอย่างบริษัทเทสลา แอปเปิล ได้ลงทุนและลงแรงอย่างมหาศาลที่จะพัฒนาหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์แห่งอนาคต

เทียบกับประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ จีนเริ่มพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในช่วงที่ค่อนข้างล่าช้ากว่าแต่ไม่ได้ล่าช้าจนเกินไป ยังต้องแก้ไขปัญหาด้านฐานอุตสาหกรรมที่ยังไม่แข็งแกร่งพอและการผสานระหว่างห่วงโซ่อุตสาหกรรมและนวัตกรรมที่ยังไม่เพียงพอ ทำให้จีนได้ออกมาตรการและแผนการที่มีเป้าหมายเพื่อจัดการกับปัญหาคอขวดทางเทคโนโลยี เช่น "แผนพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ระยะที่ 14" และ "โครงการปฏิบัติการหุ่นยนต์+" รวมถึงมาตรการต่างๆ ที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมด้านหุ่นยนต์ให้สมบูรณ์ เป้าหมายเพื่อให้จีนก้าวขึ้นจากประเทศที่มีนวัตกรรมในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ไปสู่ประเทศผู้นำในด้านอุตสาหกรรมชนิดนี้

อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ในจีนกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด มีอัตราการเติบโตกว่าร้อยละ 116   (ภาพจาก เวยปั๋ว)
"หุ่นยนต์+" ของจีนมีเป้าหมายเพื่อให้ผลลัพธ์ของการพัฒนาเข้าถึงอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างกว้างขวาง พร้อมทั้งเสริมสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพ และผลักดันให้กฎเกณฑ์และมาตรฐานของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ของจีนเข้ากับมาตรฐานสากลมากขึ้น แม้หุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ผลิตในประเทศจีนจะมีความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัดในด้านเทคโนโลยี การประยุกต์ใช้และการตลาด แต่ยังคงมีช่องว่างเมื่อเทียบกับประเทศที่มีการพัฒนาด้านหุ่นยนต์ในขั้นสูง โดยปัญหาของจีนหลักมีอยู่ในด้านต่างๆ ดังนี้

1.ด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี: หุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ผลิตในจีนยังคงต้องเสริมสร้างความสามารถในการวิจัยและพัฒนาด้วยตัวเอง และยกระดับการควบคุมเทคโนโลยีหลักอย่างอิสระ แม้จะมีความก้าวหน้าในด้านการวิจัยและการผลิตชิ้นส่วนสำคัญบางอย่าง แต่ระดับเทคโนโลยีโดยรวมยังต้องพัฒนาให้สูงขึ้น

2.ด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์และความน่าเชื่อถือ: หุ่นยนต์อุตสาหกรรมของจีนยังต้องปรับปรุงให้มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือที่สูงขึ้น ขณะนี้ผลิตภัณฑ์ของบางบริษัทยังมีปัญหาในด้านเสถียรภาพและความทนทาน จำเป็นต้องเสริมความเข้มงวดในการควบคุมคุณภาพและการทดสอบความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์

3.ด้านการขยายตลาดและการประยุกต์ใช้งาน: หุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ผลิตในจีนยังต้องขยายตลาดและขยายการประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ เพิ่มขึ้น ปัจจุบันการใช้งานหุ่นยนต์อุตสาหกรรมในจีนมักจะจำกัดอยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตแบบดั้งเดิม ในขณะที่การใช้งานในด้านใหม่ๆ เช่น การแพทย์และบริการยังต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติม

ตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นมา มณฑลหลักที่มีฐานอุตสาหกรรมการผลิตขนาดใหญ่ในจีน เช่น เจ้อเจียง ซานตง อานฮุย และเสฉวน ในหลายพื้นที่ได้ก่อตั้งศูนย์นวัตกรรมด้านหุ่นยนต์ที่ควบรวมการผลิต การศึกษาและการวิจัยไว้ด้วยกัน การรวมระบบทำให้สามารถเสริมจุดแข็งและแก้ไขจุดอ่อนในภาคอุตสาหกรรม ตั้งแต่การพัฒนาชิ้นส่วนหลักที่ผลิตในประเทศได้ด้วยตัวเองไปจนถึงการเปิดตัวหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ที่จีนพัฒนาขึ้นเอง "เทียนกง" "ชิงหลง" และ "ควาฟู" ที่สามารถพูดภาษาท้องถิ่นเสฉวนได้ เป็นต้น และปัจจุบันจีนมีบริษัทกว่า 20 แห่งที่มีเปิดตัวผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์เสมือนมนุษย์

แม้ว่าอุตสาหกรรมหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น และยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่จะนำมาใช้งานในเชิงพาณิชย์อย่างแพร่หลาย แต่ในฐานะที่เป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่รวบรวมเทคโนโลยีใหม่และขั้นตอนการผลิตขั้นสูง หุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ได้กลายเป็นจุดสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมของจีนไปสู่ระดับสูงขึ้น การสร้างศูนย์นวัตกรรมเพื่อรวมทรัพยากร การสร้างแพลตฟอร์มแบบเปิดเพื่อแบ่งปันผลลัพธ์ และการพัฒนาตลาดเฉพาะกลุ่มให้แข็งแกร่ง

การพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในจีนมีองค์ประกอบสำคัญ 3 อย่าง คือ นวัตกรรมทางเทคโนโลยี การกำหนดนโยบาย และการตอบสนองของตลาด รัฐบาลจีนปัจจุบันมีบทบาทอย่างมากที่ผลักดันให้อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมกับช่วยบริษัทจีนในการแข่งขันกับบริษัททั่วโลกในสนามใหม่ที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ เส้นทางสู่การบุกเบิกอุตสาหกรรมในอนาคตโดยมีหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์เป็นตัวแทน จะเป็นเส้นทางสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมของจีนก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันระดับโลกมากขึ้น

จะเห็นได้ว่าโลกในทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในวันที่คนยังหวาดกลัวกับเทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์ว่าจะเป็นภัยคุกคาม แต่หารู้ไม่ว่าภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่กว่าอย่างหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์กำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ และอาจจะเข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์จริงๆ ไวกว่าที่เราคิดกันเอาไว้!


กำลังโหลดความคิดเห็น