หลังจากรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสูงลิ่วสำหรับสินค้าจากจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งรวมถึงแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และแร่ธาตุสำคัญ รวมถึงภาษีนำเข้า 100% สำหรับรถอีวี
ล่าสุด สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข่าวว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้เสนอกฎระเบียบห้ามการใช้ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของจีนในรถยนต์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและขับขี่อัตโนมัติ (connected and autonomous vehicles) ที่แล่นบนถนนในสหรัฐฯ แล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 23 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์จากจีน ที่มีการติดตั้งระบบการสื่อสารสำคัญและระบบการขับขี่อัตโนมัติ จะถูกห้ามการนำเข้าและห้ามการจำหน่ายในสหรัฐฯ อีกด้วย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ มีแผนห้ามการใช้ซอฟต์แวร์ในปี 2570 และฮาร์ดแวร์ในเดือนมกราคม ปี 2572 หรือในปี 2573 ข้อห้ามดังกล่าวยังรวมถึงรถยนต์ที่มีฟีเจอร์บลูทูธ ดาวเทียม และไร้สาย รวมถึงรถยนต์ไร้คนขับ
นายลี่ว์ เซียง นักวิจัยของสถาบันสังคมศาสตร์แห่งประเทศจีนมองว่า การประกาศอัตราภาษีเพิ่มเติมและมาตรการปราบปรามอื่นๆ ต่อจีน สหรัฐฯ ได้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าตามหลังจีนในภาครถยนต์พลังงานใหม่ เมื่อสหรัฐฯ แข่งขันสู้ไม่ได้ ก็หันมาใช้มาตรการปกป้องทางการค้า
นายเซียง ลี่กัง ผู้อำนวยการใหญ่ของอินฟอร์เมชั่น คอนซัมป์ชั่น อัลลายแอนซ์ (Information Consumption Alliance) ซึ่งเป็นสมาคมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในจีน ระบุว่า หากมองในระยะยาวย่อมหมายถึงบริษัทจีนจะสูญเสียตลาดสำคัญไป แต่การสั่งห้ามใช้ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์รถยนต์ของจีน จะส่งผลให้ธุรกิจและผู้บริโภคในสหรัฐฯ มีต้นทุนสูง ซึ่งเป็นการสูญเสียด้วยเช่นกัน นอกจากนั้น อาจทำให้เกิดการต่อต้านอย่างรุนแรงจากอุตสาหกรรมยานยนต์ในสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ
ผู้เชี่ยวชาญของจีนวิจารณ์ด้วยว่า เป็นการนำประเด็นการค้ามาทำให้เป็นเรื่องการเมือง ซึ่งจะก่อความเสียหายแก่ห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมรถยนต์ในโลก รวมถึงบริษัทของสหรัฐฯ เอง
ด้านกลุ่มการค้าซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ เช่น เจเนอรัล มอเตอร์ส โตโยต้า มอเตอร์ โฟล์คสวาเกน ฮุนได และอื่นๆ ออกมาเตือนว่าการเปลี่ยนแปลงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์อาจต้องใช้เวลา
แหล่งข่าวระบุว่า กระทรวงพาณิชย์วางแผนให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นต่อข้อเสนอมาตรการดังกล่าวของกระทรวงเป็นเวลา 30 วัน ก่อนสรุปกฎระเบียบข้อบังคับ
ทั้งนี้ รถยนต์รุ่นใหม่เกือบทั้งหมดที่แล่นบนถนนในสหรัฐฯ เป็นรถที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้โดยมีฮาร์ดแวร์เครือข่ายในตัวที่อนุญาตให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตทำให้แชร์ข้อมูลกับอุปกรณ์ทั้งภายในและภายนอกรถได้
สหรัฐฯ วิตกว่าบริษัทจีนอาจอาศัยระบบอัจฉริยะเหล่านี้เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลของผู้ขับรถและข้อมูลโครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ รวมถึงรถยนต์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตและระบบนำทางอาจถูกต่างชาติเข้าแทรกแซง โดยนางจีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ให้ลองนึกภาพถึงผลลัพธ์ที่เลวร้ายสุดในทางทฤษฎี หากมีรถยนต์หลายล้านคันแล่นอยู่บนท้องถนนและซอฟต์แวร์ของรถถูกปิดใช้งาน
ที่มา : โกลบอลไทมส์/รอยเตอร์