หลังจากจุดชนวนความขัดแย้งอยู่นาน 5 เดือน ในที่สุดเรือหน่วยยามฝั่งของฟิลิปปินส์ได้ถอดสมอจากสันดอนซาบีนา ซึ่งเป็นข้อพิพาทกับจีนแล้ว
สันดอนซาบีนา อยู่ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ (หมู่เกาะหนานซา) ซึ่งอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติในทะเลจีนใต้ จีนเรียกสันดอนนี้ว่า แนวปะการังเซียนปิน ส่วนฟิลิปปินส์เรียกว่า สันดอนเอสโคดา ตั้งอยู่ห่างจากจังหวัดปาลาวันของฟิลิปปินส์ 150 กิโลเมตร โดยมะนิลายืนยันว่า สันดอนอยู่ภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของฟิลิปปินส์
สภาการเดินเรือแห่งชาติฟิลิปปินส์แถลงเมื่อวันอาทิตย์ (15 ก.ย.) ว่า เรือ บีอาร์พี เทเรซา มักบานูอา ได้แล่นกลับฟิลิปปินส์แล้ว หลังจากปฏิบัติภารกิจรักษาการที่สันดอนซาบีนาอยู่นาน 5 เดือน โดยอ้างเหตุผลการซ่อมแซมเรือ การเติมเสบียง และการรักษาพยาบาลลูกเรือ อย่างไรก็ตาม เรือจะกลับมาปฏิบัติภารกิจที่นี่อีกครั้งอย่างแน่นอนเพื่อพิทักษ์อธิปไตยของฟิลิปปินส์
ด้านนายหลิว เต๋อจวิ้น โฆษกหน่วยยามฝั่งจีนยืนยันว่า เรือลำดังกล่าวได้แล่นออกไปเมื่อวันเสาร์ (14 ก.ย.) เวลาประมาณ 14.00 น. หลังจากทอดสมอในทะเลสาบของแนวปะการังเซียนปินอย่างผิดกฎหมายมาตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน
โฆษกหน่วยยามฝั่งจีนระบุว่า ปักกิ่งมีอำนาจอธิปไตยเหนือหมู่เกาะหนานซาอย่างไม่อาจโต้แย้งได้ รวมถึงแนวปะการังเซียนปินและน่านน้ำที่อยู่ติดกัน ภารกิจของฟิลิปปินส์เป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่ออธิปไตยเหนือดินแดนของจีนและต่อปฏิญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ (Declaration on the Conduct of Parties in the South China Sea) ตลอดจนบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค จึงขอเตือนให้ฟิลิปปินส์หยุดการกระทำที่ยั่วยุและทำงานร่วมกับจีนเพื่อรักษาแนวปฏิบัติดังกล่าวไว้
สันดอนซาบีนาเป็นจุดเกิดเหตุเรือยามฝั่งจีน-ฟิลิปปินส์ชนกันอย่างน้อย 3 ครั้งในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขณะกองเรือยามฝั่งของจีนพยายามขัดขวางไม่ให้เรือฟิลิปปินส์เติมเสบียงให้เรือบีอาร์พี เทเรซา มักบานูอา โดยชาติทั้งสองต่างกล่าวโทษกัน
กระทั่งมีการเจรจาเพื่อพยายามลดความตึงเครียดระหว่างนายเฉิน เสี่ยวตง รมช.ต่างประเทศจีน กับนางมาเรีย เทเรซา ลาซาโร ปลัดกระทรวงการต่างประเทศของฟิลิปปินส์ที่กรุงปักกิ่งเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยจีนเน้นย้ำขอเรียกร้องให้ถอนเรือลำนี้ออกไป
นายติง โต้ว รองผู้อำนวยการสถาบันกฎหมายและนโยบายการเดินเรือ สถาบันการศึกษาทะเลจีนใต้แห่งชาติมองว่า การหารือระหว่างนายหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศจีนกับนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 27-28 ส.ค. เพื่อรักษาเสถียรภาพความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ อาจมีส่วนสนับสนุนทางอ้อมต่อการคลี่คลายสถานการณ์ที่สันดอนซาบีนา
ที่มา : โกลบอลไทมส์/เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์/รอยเตอร์