จากกรณีเรือหน่วยยามฝั่งจีนชนกับเรือหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์บริเวณน่านน้ำข้อพิพาทในทะเลจีนใต้เมื่อวันเสาร์ (31 ส.ค.)
หน่วยงานซึ่งถือเป็นกระทรวงการต่างประเทศของสหภาพยุโรป (European Union External Action Service) ได้ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของเรือหน่วยยามฝั่งจีนในวันรุ่งขึ้นทันทีว่า กระทำการเป็นอันตรายต่อปฏิบัติการทางทะเลของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
นอกจากนั้น ยังระบุด้วยว่า เหตุการณ์ระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ซึ่งเกิดขึ้นหลายครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของชีวิต และละเมิดสิทธิในการเดินเรือและการบินเหนือทะเลจีนใต้อย่างเสรี ซึ่งทุกประเทศมีสิทธิภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ด้านคณะทูตจีนประจำอียูออกแถลงการณ์สวนทันควันว่า จีน "ไม่พอใจอย่างยิ่ง" กับ "ข้อกล่าวหา" ของอียูเกี่ยวกับประเด็นนี้ โดยเรียกร้องให้ยุโรป “เป็นกลางและยุติธรรม” อีกทั้งระมัดระวังถ้อยคำตลอดจนการกระทำในปัญหาทะเลจีนใต้
“อียูมิใช่คู่กรณีในปัญหาทะเลจีนใต้ และไม่มีสิทธิมาชี้นิ้วในเรื่องนี้”
แถลงการณ์ของคณะทูตจีนประจำอียูยังบอกด้วยว่า อียูจงใจประโคมประเด็นเสรีภาพในการเดินเรือให้เป็นเรื่องตื่นเต้นมากมายซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรกับผลประโยชน์ของอียูและความน่าเชื่อถือในหมู่นานาประเทศเลย
ทั้งนี้ จีนและฟิลิปปินส์ต่างอ้างหลักฐานกล่าวโทษกันว่าจงใจชนเรือของอีกฝ่าย โดยเหตุเกิดใกล้แนวสันดอนซาบีนา หรือที่จีนเรียกว่า แนวปะการังเซียนปิน นับเป็นการเผชิญหน้าทางทะเลครั้งที่ 5 ในรอบหนึ่งเดือนในความขัดแย้งอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำบริเวณดังกล่าวระหว่างชาติทั้งสองที่มีมาอย่างยาวนาน
ข้อมูล : รอยเตอร์