ข้อมูลของ Trip.com ระบุว่า ในช่วงค่ำของวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อ Black Myth: Wukong เกมผจญภัยตำนานอู้คง หรือหงอคง เปิดตัวครั้งแรกนั้น
ปรากฏว่า โรงแรมซึ่งมุ่งเน้นให้บริการนักเล่นวิดีโอเกมเป็นหลักในประเทศจีน มีแขกเข้าพักหมดทุกห้อง สำหรับห้องประเภทเข้าพักได้หลายคน
นอกจากนั้น ยอดการค้นหาห้องพักสำหรับการเล่นเกมในคืนนั้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 จากวันก่อนหน้า เกือบร้อยละ 70 ของผู้จองห้องพักมีอายุไม่เกิน 25 ปี โดยร้อยละ 75 เป็นผู้ชาย
Black Myth : Wukong วิดีโอเกมคุณภาพระดับ AAA เรื่องแรกของจีน สร้างจากเรื่องไซอิ๋ว นิยายคลาสสิกในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 16 ของจีน โดย Game Science สตูดิโอสตาร์ทอัป ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเทนเซ็นต์โฮลดิ้ง
ความสำเร็จของเกม ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดขณะนี้ ได้ขับเคลื่อนกระแสกิจกรรม "เศรษฐกิจอู้คง" ปลุกการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศที่ชะลอตัว ให้กลับมาคึกคักในหลายภาคธุรกิจ เช่น ภาคการโรงแรม การท่องเที่ยว และภาคอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดการจองห้องพักในโรงแรมประเภทนี้ ซึ่งรวมถึงเครือโรงแรม Wanyoo eSports มิได้ซาลง แม้ราคาห้องพักจะสูงขึ้นจากเดิมกว่า 2 เท่าก็ตาม
ห้องพักแต่ละห้องของเครือโรงแรม Wanyoo eSports มีเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ติดตั้งการ์ดจอประสิทธิภาพสูง ซึ่งมีราคาประมาณ 20,000 หยวน (ราว 95,600 บาท) ไว้ให้เล่นเกมและก็ได้พิสูจน์แล้วว่า สามารถดึงดูดใจนักเล่นเกมรุ่นเยาว์หลายพันคนที่หวังว่าจะได้สัมผัสประสบการณ์ Black Myth ก่อนสิ้นสุดการปิดภาคเรียนฤดูร้อน โดยทางโรงแรมยังเตรียมอัปเกรดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ให้เล่นเกมได้แรงขึ้นกว่านี้อีกด้วย
โรงแรมของ Wanyoo ในนครเซี่ยงไฮ้ ห้องพักแบบเตียงคู่มีราคาแพงขึ้นจากประมาณคืนละ 300 หยวน (ราว 1,434 บาท) ในช่วงที่ Black Myth: Wukong ยังไม่เปิดตัว เป็นกว่า 700 หยวน (ราว 3,346 บาท) ต่อคืน
Trip.com ระบุว่า การผสมผสานการท่องเที่ยวเข้ากับการเล่นเกมได้กลายเป็นหนึ่งในประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักเดินทางรุ่นเยาว์ในประเทศจีนไปแล้ว
ฉากใน Black Myth ยังกระตุ้นให้อยากไปท่องเที่ยวยังสถานที่ที่อยู่ในเนื้อเรื่อง ซึ่งมี 36 แห่งทั่วประเทศจีน โดย 27 แห่งอยู่ในมณฑลซานซี เห็นได้จากยอดการค้นหาที่เพิ่มขึ้นในเว็บไซต์ Trip.com
ทั้งนี้ ยอดขายเกม Black Myth พุ่งสูงถึง 15 ล้าน 4 แสนก๊อบปี้เมื่อวันจันทร์ (26 ส.ค.) โดยทำรายได้บนแพลตฟอร์มวิดีโอเกม Steam มากกว่า 737 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามรายงานของบริษัทวิจัยตลาด Video Game Insights
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์