“ชามไก่“ ชาวจีนเรียก 鸡公碗 (อ่านว่า จีกงหวั่น) หรือ 公鸡碗 (อ่านว่า กงจีหวั่น) เป็นมรดกตกทอดจากยุคโบราณของท้องถิ่นในภาคใต้ของจีน มณฑลฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) มาเก๊า ฮ่องกง
ชามไก่ มีปรากฏบนพิภพนี้ตั้งแต่รัชสมัยจักรพรรดิหมิงเฉิงฮว่าแห่งราชวงศ์หมิง (1465-1487) ซึ่งเป็นปีนักษัตรระกา (ไก่) ตอนนั้นเป็นถ้วยใส่เหล้า เป็นของใช้หรูในราชสำนักและบ้านขุนนางชนชั้นสูง จากยุคราชวงศ์ชิงถึงทศวรรษ 1960 กลายเป็นของใช้ของชนชั้นกลางและชนชั้นล่างลงมา
ช่วงปลายราขวงศ์ชิงและต้นยุคสาธารณรัฐจีน ชามไก่เผาจากเตาเครื่องปั้นดินเผาในมณฑลเจียงซี แต่ด้วยต้นทุนสูงจึงสู้เครื่องปั้นดินเผาราคาถูกของตะวันตกไม่ได้ และต้องหยุดการผลิต
ต่อมา แถบเมืองเฉาซ่าน (潮汕 )หรือเมืองแต้จิ๋ว-ซัวเถา รับช่วงการผลิตชามไก่ ทำให้ชามไก่กลับมาแพร่หลายอีกครั้ง มีการส่งออกไปยังประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และฮ่องกง ช่วงทศวรรษที่ 1960 ทุกบ้านมีชามไก่
ที่บ้านคุณมีชามไก่ไหม?
ชาวฮกเกี้ยน เรียก “ชามไก่” ในอีกชื่อว่า “ชามสร้างเนื้อสร้างตัว” (起家碗) คนเฒ่าคนแก่บอกว่า “หากต้องการสร้างฐานะครอบครัวให้เจริญรุ่งเรือง” ในบ้านต้องมี “ชามไก่” จึงจะสามารถสร้างตัวสร้างฐานะได้
ไก่ ในภาษาจีนคือ 公鸡 อ่านว่า “กงจี” เสียงคล้ายคลึงกับ 家 อ่านว่า “จยา” ซึ่งแปลว่า บ้าน ดังนั้น ชาวจีนโบราณจึงใช้ “ชามไก่” เป็นสัญลักษณ์การสร้างเนื้อสร้างตัว หรือสร้างฐานะครอบครัว
สมัยก่อนเป็นยุคแห่งความยากลำบาก ในสังคมเกษตรกรรม การกินอาหารเป็นเรื่องใหญ่ ผู้คนใช้แบบลวดลายรูปไก่บนชาม เป็นสัญลักษณ์ความหวังและสิริมงคล
จากลายรูปไก่ตัวน้อย ต่อมามีกอดอกไม้ประดับข้างรูปไก่ ต่อมากลายเป็นดอกโบตั๋นและต้นกล้วย ซึ่งล้วนเป็นสัญลักษณ์ความหวัง “บ้านที่สร้างฐานะจนมีกิจการใหญ่รุ่งเรือง“ “ลาภยศศฤงคารมากมี” และเรื่องสิริมงคลต่างๆ