มหกรรมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม-11 สิงหาคม สหรัฐอเมริกาคือทีมตัวเต็งที่จะขึ้นอันดับหนึ่งของตารางเหรียญรางวัลอีกครั้ง เมื่อการแข่งขันยาวนาน 17 วันสิ้นสุดลง
ที่ผ่านมา ทัพนักกีฬามะกันทำผลงานติดอันดับสูงสุดของตารางในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 18 ครั้ง จากทั้งหมด 29 ครั้ง ซึ่งรวมถึงครั้งแรกสุดที่กรุงเอเธนส์ปี 1896 (พ.ศ.2439) และนับตั้งแต่การแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนที่เมืองแอตแลนตา ประเทศสหรัฐฯ ปี 1996 (พ.ศ.2539) ก็เป็นจ่าฝูงของตาราง 6 ครั้งจาก 7 ครั้ง
จนกระทั่งถูกจีนเจาะยางสำเร็จในโอลิมปิกปักกิ่ง 2008 (พ.ศ.2551) และโอลิมปิกโตเกียว 2020 จีนคว้า 38 เหรียญทอง น้อยกว่าสหรัฐฯ แค่เหรียญเดียว ส่วนญี่ปุ่นเจ้าภาพจบที่อันดับ 3 สหราชอาณาจักรอันดับ 4 คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งรัสเซีย (ROC) อันดับ 5
ศึกปารีส2024 ทัพนักกีฬาแดนมังกรจะขับเคี่ยวดุเดือดอย่างแน่นอน ส่วนรัสเซีย ซึ่งถูกคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) เปลี่ยนมาเรียกว่า ROC จากกรณีถูกลงโทษการใช้สารกระตุ้นนั้น ถูกห้ามเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งรวมทั้งเบลารุส อันเป็นผลมาจากการคว่ำบาตรของนานาชาติกรณีการรุกรานยูเครน กระนั้น IOC อนุญาตให้นักกีฬาจากทั้งสองชาติลงแข่งขันได้ในฐานะนักกีฬาเป็นกลางรายบุคลล (AIN) แต่ไม่มีเพลงชาติ ไม่มีสีธงชาติบนชุดแต่งกาย และไม่ถูกนับบนตารางเหรียญรางวัล
ส่วนฝรั่งเศสชาติเจ้าภาพคาดว่าจะขยับขึ้นบนตาราง หลังจากติดอันดับ 8 ครอง 10 เหรียญทองที่โตเกียว
สำหรับตารางเหรียญรางวัลนั้น IOC เป็นผู้จัดอันดับอย่างเป็นทางการ โดยพิจารณาจากจำนวนเหรียญทองที่แต่ละประเทศได้รับเป็นอันดับแรก ถ้าได้เหรียญทองเท่ากัน จะนับเหรียญเงินเพิ่มเข้ามา และถ้ายังเสมอกันอีกจะนับเหรียญทองแดงด้วย
อย่างไรก็ตาม วิธีการจัดอันดับเป็นเรื่องถกเถียงกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บางชาติเลือกนำเหรียญที่ได้ทั้งหมดมานับรวม โดยสื่อมวลชนสหรัฐฯ มักนำเสนอตารางซึ่งรวมเหรียญรางวัลทั้งหมดเพื่อให้มะกันอยู่บนสุด
ส่วนสื่อจีนพยายามประโคมความรุ่งโรจน์ของทัพนักกีฬาจีนเมื่อคราวโอลิมปิกที่โตเกียว 3 ปีก่อน จึงนับรวมเหรียญรางวัลที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และไต้หวัน ซึ่งจีนถือเป็นมณฑลหนึ่งของตนได้รับเข้ามาด้วย
ที่มา : INDEPENDENT