โครงการฟาร์มสุกรแนวตั้งบนอาคารสูง 26 ชั้น 2 หลังในเมืองเอ้อโจว มณฑลหูเป่ยในภาคกลางของจีนเป็นนวัตกรรมซึ่งสร้างกระแสตอบรับอย่างดีจากทั้งในประเทศจีนและทั่วโลก
สถานที่ซึ่งมองดูเหมือนอาคารที่พักอาศัยทั่วไปแห่งนี้ สามารถผลิตสุกรได้ปีละ 1 ล้าน 2 แสนตัวด้วยระบบไฮเทค ดำเนินการโดยบริษัทหูเป่ย จงซิน ไคเหวย โมเดิร์น ฮัสแบนดรี (Hubei Zhongxin Kaiwei Modern Husbandry)
จากการเปิดเผยของนายจิ้น หลิน ผู้จัดการทั่วไปของฟาร์ม และนายจูเก๋อ เหวินต้า ประธานบริษัทระบุว่า ฟาร์มเปิดดำเนินการเมื่อเดือนกันยายน ปี 2565 เริ่มจากการนำแม่สุกรชุดแรกมาเลี้ยง โดยแบ่งออกเป็นกลุ่ม แล้วใช้ลิฟต์ขนส่งไปยังชั้นที่กำหนด เพื่อเริ่มต้นวงจรจากพื้นที่ตั้งท้อง จากนั้นจะย้ายไปยังพื้นที่ออกลูกและการอนุบาลลูกสุกร 23 วัน ลูกสุกรเหล่านี้จะถูกนำไปยังพื้นที่สำหรับการเลี้ยงดูนาน 6-8 เดือนก็ขายได้
อาคารทั้ง 2 หลังแต่ละชั้นมีพื้นที่กว้าง 390,000 ตารางเมตร ฟาร์มจ้างคนงานมากกว่า 800 คน รับผิดชอบสุกรคนละประมาณ 1,500 ตัว
สำหรับการให้อาหารสุกรนั้น จะใช้สายพานลำเลี้ยงอาหารไปยังดาดฟ้า จากนั้นจึงกระจายไปทีละชั้น ซึ่งมีระบบปิดสนิท การตั้งค่าที่ละเอียดซับซ้อนช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะมีการอาบน้ำสุกรทุกวันและให้อาหารตามน้ำหนัก สายพันธุ์ และความต้องการของตลาดอย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ ยังมีระบบรีไซเคิลขยะโดยเฉพาะ ซึ่งช่วยลดปัญหากลิ่นและมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมอย่างที่เกิดขึ้นกับฟาร์มสุกรในชนบทแบบดั้งเดิม
การเลี้ยงสุกรแบบดั้งเดิมในชนบทของจีนมักบังคับให้สุกรกินนอนในพื้นที่จำกัด ส่งผลให้พวกมันสกปรก ทั้งๆ ที่สุกรเป็นสัตว์ที่สะอาดโดยธรรมชาติ การแบ่งพื้นที่ใช้งานของฟาร์มสุกรแนวตั้งทำให้การเลี้ยงสุกรสะอาดขึ้น นอกจากนั้น การทำฟาร์มสุกรแนวตั้งยังช่วยแก้ปัญหาสำคัญในอุตสาหกรรมการทำฟาร์มสุกรในจีนอื่นๆ เช่น ต้นทุนสูงอีกด้วย
ด้านนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรหวาจงในเมืองอู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ย ชี้ว่า การเลี้ยงสุกรบนอาคารสูงช่วยประหยัดพื้นที่และลดค่าแรงได้อย่างมาก
โลกโซเชียลเมืองจีนขนานนามอาคารทั้ง 2 หลังว่า ปาเจี้ยบิลดิ้งส์ (ปาเจี้ย หรือตือโป๊ยก่าย หนึ่งในตัวละครเอกเรื่องไซอิ๋ว)
“มันดูน่าทึ่งมาก ตอนนี้แม้แต่หมูก็ยังอาศัยอยู่ในตึกสูง ฉันรู้สึกว่าสภาพความเป็นอยู่ของฉันแย่กว่าหมูเสียอีก” ชาวเน็ตคนหนึ่งพูดติดตลก
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์