ในที่สุดก็ได้พบ! "โก่วหมิง หรือเกาหยาง" ดร.หนุ่มเชื้อสายจีน ได้พบกับครอบครัวอีกครั้ง หลังพลัดพรากจากกันเกือบ 30 ปี
ย้อนกลับไปในปี 1994 โก่วหมิงที่อายุเพียง 3 ขวบ พลัดหลงกับผู้ปกครองขณะที่กำลังเดินทางจากมณฑลเจียงซูไปยังบ้านเกิดของแม่ในมณฑลซื่อชวน (เสฉวน)
เขาถูกส่งตัวไปยังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ก่อนที่จะถูกพ่อแม่บุญธรรมชาวดัตช์รับเลี้ยงและพาไปอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ในปี 1996 โดยพวกเขาตั้งชื่อให้ใหม่ว่า โก่วหมิง ซึ่งมาจากชื่อสถานีเลี้ยงเด็กกำพร้า "โก่วหย่งหมิง" เพื่อที่โก่วหมิงจะได้ไม่ลืมว่าเขามาจากไหน
เมื่อโตขึ้นโก่วหมิงก็อยากตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง ซึ่งพ่อแม่บุญธรรมของเขาสนับสนุนเต็มที่ พวกเขานั่งเครื่องบินมาที่จีนในปี 2007 ทว่าสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เป็นเบาะแสเพียงหนึ่งเดียวกลับหายไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม โก่วหมิงไม่คิดจะยอมแพ้ เขาใช้เวลา 5 ปีในการเรียนรู้ภาษาจีน และเพื่อที่จะเก็บเงินไว้เป็นค่าเดินทางไปจีน เขาจึงขยันทำงานพาร์ทไทม์ในระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย
นอกจากนี้ ในปี 2012 โก่วหมิงยังได้ลงทะเบียนกับ baobeihuijia.com องค์กรการกุศลที่ช่วยเด็กที่หายตัวไปและครอบครัวให้กลับมาพบกันอีกครั้ง
วันเวลาผ่านไปจนเขาเรียนจบปริญญาเอก และทำงานในประเทศแคนาดา ในที่สุดข่าวดีก็มาถึง หลังเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว อาสาสมัครแจ้งว่า ดีเอ็นเอของเขาตรงกับนางเหวิน ผู้เป็นแม่
ปรากฏว่า ความจริงแล้วพ่อแม่ของโก่วหมิงได้ตามหาโก่วหมิงเช่นกัน หากแต่เป็นการตามหาในชื่อ "เกาหยาง" ต่อมาเรื่องราวน่าเศร้าก็ถูกถ่ายทอดให้เขาได้รับรู้ ว่าขณะที่พ่อของเขาออกตามหาแม่ที่หายไปจากสถานีรถไฟ พ่อก็ได้พบกับกลุ่มอันธพาล และสูญเสียโก่วหมิงไป
ด้านแม่ของเขาถูกคนเร่ร่อนลวงให้กลับบ้านด้วยกันและบังคับให้เธอมีลูกชายกับเขา หลังจากคลอดลูก แม่ของโก่วหมิงก็เดินทางไปยังบ้านเกิด และเริ่มมีอาการป่วยทางจิต ภายหลังเธอได้แต่งงานใหม่และมีลูกสาว 1 คน
ขณะที่ผู้เป็นพ่อซึ่งสูญเสียทั้งภรรยาและลูกชาย ได้เดินเท้าระยะทางกว่า 1,700 กม.จากมณฑลเสฉวนกลับไปยังมณฑลเจียงซู เขาพยายามตามหาเกาหยางมาโดยตลอด ทว่าสุดท้ายพ่อผู้สิ้นหวังก็จากไปในปี 2009
กระทั่งปี 2017 พี่ชายของพ่อได้ติดต่อไปหาแม่ของโก่วหมิง และขอให้เธอไปที่สถานีตำรวจ เพื่อเก็บข้อมูลดีเอ็นเอ รวมทั้งลงทะเบียนใน baobeihuijia.com
ตามปกติแล้วข้อมูลดีเอ็นเอจะต้องใช้ทั้งฝ่ายพ่อและฝ่ายแม่ จึงจะสามารถตรวจสอบได้ แต่หลังจากอาสาสมัครตรวจดูโพสต์และข้อมูลทั้งหมดอย่างละเอียด ก็คาดว่าพวกเขาน่าจะเป็นแม่ลูกกัน จึงทำการส่งตัวอย่างเลือดไปตรวจพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางสายเลือด
กว่า 12 ปีสำหรับการตามหา ในที่สุดโก่วหมิงก็ได้รับผลยืนยันในวันที่ 12 ต.ค.2023 ซึ่งบังเอิญตรงกับวันเกิดของเขาตามปฏิทินจีนพอดี
น่าเสียดายที่แม่บุญธรรมของโก่วหมิงจากไปก่อนที่จะได้รับข่าวดี แต่พ่อบุญธรรมของเขาก็มีความสุขและแสดงความยินดีกับเขาด้วย
ต้นปีที่ผ่านมา โก่วหมิงได้ไปเยี่ยมแม่ของเขา โดยทันทีที่พบกัน แม่ก็เอาแต่เรียกเขาว่า "หยางหยาง" และถามว่า “ลูกไปอยู่ที่ไหนมา?”
โก่วหมิงได้ไปเยี่ยมหลุมศพของพ่อในมณฑลเจียงซู และได้พบกับลุงและป้าของเขา โดยลุงยังได้มอบเงินชดเชยค่ารื้อถอนบ้านของพ่อให้กับเขา ซึ่งเก็บไว้ให้มานานหลายสิบปี
ทั้งนี้ โก่วหมิงบอกว่า การที่เขาพยายามตามหาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดนั้น ไม่ได้เป็นการทำเพื่อตัวเขาเพียงผู้เดียว หากยังเป็นการทำเพื่อพ่อแม่อีกด้วย
“ผมรู้ว่าพวกเขากำลังตามหาผม และรอให้ผมกลับบ้าน” โก่วหมิงกล่าว พร้อมเสริมว่า จากนี้เขาจะกลับมาที่จีนทุกปี
ที่มา: China boy lost 28 years ago in railway station, adopted by Dutch couple, in epic search for birth family (SCMP)