โลกโซเชียลเมืองจีนเดือด เมื่อเห็นคลิปวิดีโอหญิงผู้หนึ่งจอดรถกีดขวางการจราจร จนรถราคันอื่นผ่านไปไม่ได้ ต้องร้องบอกให้หลีกทาง แต่กลับถูกตอกกลับหน้าหงายด้วยคำว่า ความคุ้มกันทางการทูต
เหตุการณ์รถยนต์ติดป้ายทะเบียนสถานเอกอัครราชทูตจอดปิดกั้นถนนบริเวณทางเข้าย่านที่อยู่อาศัยในกรุงปักกิ่งเกิดขึ้นเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (16 มิ.ย.)
ผู้หญิงในคลิปวิดีโอคือ อี้ว์ ฉี วัย 58 ปี ทำงานมีตำแหน่งเป็นถึงเลขาธิการองค์การความร่วมมือด้านอวกาศเอเชีย-แปซิฟิก (APSCO) นั่งมาในรถกับชายชื่อแซ่ว่า ซู วัย 61 ปี
“คุณรู้ไหมรถสถานทูตคืออะไร คุณเข้าใจความคุ้มกันทางการทูตรึไม่” เลขาธิการ APSCO ย้อนถาม
คุณเป็นใครน่ะหรือ ตำรวจเมืองจีนไม่สนหรอก ทำผิดกฎหมายเป็นจับหมด โดยผู้ขับรถที่มีป้ายทะเบียนสถานเอกอัครราชทูตคันนี้ถูกตำรวจจราจรสั่งปรับในที่สุด
คลิปถูกเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อวันอังคาร (18 มิ.ย.) เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึง จนวันถัดมาอี้ว์ต้องออกมากล่าวขอโทษต่อสังคม
ชาวเน็ตบางคนสงสัยว่า ความคุ้มกันทางการทูตเอาไปใช้ละเมิดกฎจราจรอย่างโจ๋งครึ่มได้ด้วยหรือ
“ในฐานะเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ถูกต้องตามกฎหมาย ย่อมมีความคุ้มกันทางการทูตจริงๆ นั่นแหละ แต่การนำรถของทางการไปใช้ในเรื่องส่วนตัวและละเมิดกฎจราจรถือเป็นการประพฤติมิชอบและใช้อำนาจโดยมิชอบ สมควรถูกจัดการตามกฎหมาย” ชาวเน็ตอีกคนให้ความเห็น
สำนักงานพิทักษ์สันติราษฎร์เทศบาลกรุงปักกิ่งแถลงว่า บุคคลทั้งสองไม่ยอมเคลื่อนรถตามที่ผู้อื่นแจ้ง แต่กลับแสดงการดูถูกเหยียดหยาม และใช้คำพูดไม่เหมาะสม ก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อสังคม
ในวิดีโอขอโทษ อี้ว์โค้งคำนับสองครั้งและขอโทษต่อสาธารณชนที่พูดจาไม่เหมาะสม
“ดิฉันตระหนักด้วยว่าการกระทำของดิฉันส่งผลเสียต่อองค์กรระหว่างประเทศที่ดิฉันเป็นตัวแทน และดิฉันรู้สึกเสียใจอย่างที่สุดต่อสิ่งนั้น” นางกล่าว
การละเมิดกฎหมายจราจรครั้งนี้ยังนำไปสู่การถูกดำเนินคดีด้านการปกครอง นอกจากนั้น ระหว่างดำเนินการสอบสวน ตำรวจยังพบว่า อี้ว์เป็นเจ้าของสุนัขโดยไม่ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้องอีกด้วย
APSCO มีสำนักงานใหญ่ในกรุงปักกิ่ง เปิดทำการในปี 2551 ในฐานะองค์กรระหว่างรัฐบาล โดยเป็นกลไกความร่วมมือสำหรับประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเพื่อการใช้อวกาศในทางสันติ และอำนวยความสะดวกในการเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศสมาชิก เช่น บังกลาเทศ จีน อิหร่าน มองโกเลีย ปากีสถาน เปรู ไทย และตุรกี จากเว็บไซต์ของ APSCO
ที่มา : โกลบอลไทมส์