ทีมนักบินโดรนนำโดรนบรรทุกสิ่งของที่พัฒนาโดยบริษัท DJI ผู้ผลิตโดรนชั้นนำของจีน ไปทดสอบบนยอดเขาโชโมลังมา (ยอดเขาเอเวอเรสต์) ที่สูงที่สุดในโลก โดยมีแผนจะใช้โดรนช่วยลำเลียงเสบียงและลำเลียงขยะลงมาจากบนเขา
การทดสอบครั้งนี้เป็นการทดสอบการโฉบ บิน และบรรทุกสิ่งของ ที่บริเวณ South Base Camp ที่ระดับความสูง 5,300 เมตร ใช้เวลาทดสอบ 1 สัปดาห์ โดยทีมทดสอบสร้างสถิติการบินโดรนบรรทุกสิ่งของที่สูงที่สุด ที่ความสูง 6,191.8 เมตร สามารถขนส่งสิ่งของไปกลับที่ระดับความสูง 6,000 เมตร และรับน้ำหนักได้ 15 กิโลกรัม
Raj Bikram Maharjan หัวหน้าบริษัทโดรนของเนปาลกล่าวว่า ทีมงานประสบความสําเร็จในการลำเลียงขยะ 15 กิโลกรัมจากแคมป์ 1 ไปยัง Everest Base Camp
หลังจากนี้ บริษัทในเนปาลจะเริ่มใช้โดรนบรรทุกสิ่งของของ DJI ที่ South Base Camp ในช่วงฤดูปีนเขาปีนี้ โดยมีภารกิจหลัก คือ การช่วยลำเลียงขยะที่นักปีนเขาทิ้งไว้ทางทิศใต้ของยอดเขา
ขยะบนยอดเขาโชโมลังมากลายเป็นปัญหาใหญ่ เนื่องจากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีนักปีนเขาเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จากสถิติพบว่า นักปีนเขาแต่ละคนสร้างขยะเฉลี่ย 8 กิโลกรัม โดยปีที่ผ่านมา มีนักปีนเขาจำนวน 6,664 คน ปีนขึ้นสู่ยอดเขา ขณะที่อีกหลายพันคนไม่ได้ปีนขึ้นบนยอดเขา
ตามปกติขยะจะได้รับการลำเลียงลงมาโดยนักปีนเขาในพื้นที่ แต่ยังมีขยะเหลืออยู่บนเนินเขาอีกหลาย 10 ตัน Mingma G นักปีนเขากล่าวว่า การเก็บขยะบนยอดเขาเป็นเรื่องยากและเสี่ยงชีวิต พวกเขาต้องใช้เวลา 6-8 ชั่วโมง ในการเดินฝ่าเส้นทางภูเขาที่หลายช่วงเสี่ยงอันตราย
ขณะที่การเก็บขยะด้วยเฮลิคอปเตอร์ยังมีข้อจำกัดเรื่องระดับความสูง สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งค่าใช้จ่ายจำนวนมาก การใช้โดรนจึงเป็นทางเลือกที่ดี ที่นอกจากจะใช้ในการเก็บขยะแล้วยังสามารถใช้ขนส่งเสบียงและใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ
ที่มา : China Media Group