ขณะนี้บริษัทจีนซึ่งไปตั้งโรงงานผลิตแผงพลังงานแสงทิตย์ หรือแผงโซลาร์เซลล์ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังระงับการผลิตกันเป็นแถว เนื่องจากอุปสรรคทางการค้าที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐอเมริกาทำให้การส่งออกจากภูมิภาคนี้เกิดความไม่แน่นอน
บริษัทลอนจิ กรีน เอ็นเนอร์จี เทคโนโลยี จำกัด เริ่มค่อยๆ ลดกิจกรรมการผลิตที่โรงงานแห่งหนึ่งในมาเลเซียในสัปดาห์นี้ หลังจากหยุดสายการผลิตทั้ง 5 สายที่โรงงานแห่งหนึ่งในเวียดนามเมื่อสัปดาห์ก่อน ตามรายงานของ Arfcg.com สื่อสิ่งพิมพ์ด้านการค้าของจีนโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่ระบุนามเมื่อวันอังคาร (4 มิ.ย.)
ด้านโฆษกลอนจิระบุว่า บริษัทกำลังปรับแผนการผลิตในหลายโรงงานเพื่อสู้กับปัญหาราคาที่ตกต่ำ และการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการค้านับตั้งแต่ต้นปีมา
ขณะที่บริษัททรินาโซลาร์ยืนยันตามที่ Sina Finance รายงานข่าวว่า บริษัทกำลังปิดกำลังการผลิตในไทยและเวียดนาม โดยอ้างเหตุผลเรื่องการซ่อมบำรุงประจำปี กระนั้นโฆษกบริษัทกล่าวเสริมว่า “อุปสงค์ในสหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมทางนโยบาย และจะมีความผันผวนในระยะสั้นอยู่บ้าง” บริษัทจะปรับการผลิตตามสภาวะอุตสาหกรรมและตลาด โฆษกระบุ
บริษัทผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ของจีนกำลังพยายามผ่านพ้นจุดวิกฤตไปให้ได้ แม้ว่าผลกำไรค่อยๆ หายไป เนื่องจากมีโรงงานใหม่ๆ จำนวนมากเข้ามาแข่งขันทางออนไลน์เมื่อปีที่แล้ว การผลิตป้อนของโรงงานใหม่ๆ เหล่านี้ส่งผลให้อุปทานล้นเกินอุปสงค์ เปิดทางให้เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ และยุโรปร้องเรียนว่า จีนกำลังขัดขวางไม่ให้สหรัฐฯ และยุโรปพัฒนาห่วงโซ่อุปทานของตนเอง
เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ประกาศกฎระเบียบเพื่อรองรับการใช้มาตรการทางภาษีสำหรับอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ การผ่อนผ่อนมาตรการทางภาษีสำหรับการนำเข้าอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์บางประเภทจากกัมพูชา มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม ที่ดำเนินมานาน 2 ปี สิ้นสุดลงในวันพฤหัสฯ (6 มิ.ย) นอกจากนั้น สหรัฐฯ ยังมีแผนล้มเลิกการยกเว้นสำหรับแผงโซลาร์ที่ผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (bifacial solar modules) อีกด้วย
ทั้ง 4 ประเทศ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตจีนเข้ามาตั้งโรงงานเพื่อหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีนำเข้าแผงโซลาร์ในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา ตกเป็นเป้าหมายการร้องเรียนทางการค้าของสหรัฐฯ โดยเมื่อรวมกันแล้ว คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของแผงโซลาร์ที่สหรัฐฯ นำเข้าในปีที่แล้ว ตามข้อมูลของ BloombergNEF
นอกจานั้น ผู้ผลิตแผงโซลาร์กลุ่มหนึ่งของสหรัฐฯ กำลังยื่นคำร้องต่อรัฐบาลไบเดนเพื่อเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมมากถึง 271% สำหรับอุปกรณ์ที่นำเข้าจาก 4 ประเทศ ข้อเสนอดังกล่าวทำให้ผู้ผลิตใน 4 ประเทศต้องหยุดการซื้อวัตถุดิบในขณะรอความชัดเจนมากขึ้น BloombergNEF ระบุในรายงานเมื่อเดือนที่แล้ว
ที่มา : บลูมเบิร์ก