สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป (อียู) ญี่ปุ่นและไต้หวัน ผู้ส่งออก "พลาสติกวิศวกรรม" รายใหญ่ถูกกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดการสอบสวนการทุ่มตลาดเมื่อวันอาทิตย์ (19 พ.ค.) เป็นความเคลื่อนไหวหลังจากจีนถูกสหรัฐฯ และอียูเล่นงานทางการค้าเมื่อไม่กี่วัน
โพลีฟอร์มาลดีไฮด์โคพอลิเมอร์ (POM copolymers) เป็นพลาสติกวิศวกรรมประเภทหนึ่ง สามารถนำมาใช้ทดแทนโลหะ เช่น ทองแดง และสังกะสี ในอุตสาหกรรมการผลิตหลากหลาย รวมถึงในชิ้นส่วนรถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยอียูเป็นแหล่งนำเข้า POM ของจีนรายใหญ่อันดับ 3 ไต้หวันอันดับ 4 ญี่ปุ่นอันดับ 5 และสหรัฐฯ อันดับ 6 ในไตรมาสแรกของปี 2567 จากการคำนวณตามข้อมูลศุลกากรของจีน
กระทรวงพาณิชย์ของจีนแถลงว่า การสอบสวนกระทำไปตามคำร้อง ซึ่งบริษัทผู้ผลิตของจีน 6 แห่งยื่นร่วมกันเมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงได้แนบสำเนาการยื่นคำร้องไว้ในคำแถลงด้วย โดยบริษัทผู้ผลิตเหล่านี้ระบุในคำร้องว่า แหล่งนำเข้าทั้ง 4 รายดังกล่าวมีการทุ่มตลาดอย่างชัดเจนบนจีนแผ่นดินใหญ่ ก่อ "ความเสียหายอย่างมาก" ต่ออุตสาหกรรมในท้องถิ่น โดยการสอบสวนอาจเสร็จสิ้นภายในหนึ่งปี หรืออาจขยายเวลาออกไปอีก 6 เดือน
การเคลื่อนไหวของจีนครั้งนี้มีขึ้นหลังจากถูกสหรัฐฯ ประกาศขึ้นกำแพงภาษีสูงลิ่วอีกรอบเมื่อ 5 วันก่อนกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (อีวี) ชิปคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ทางการแพทย์และสินค้านำเข้าจากจีนอีกหลายรายการ คล้อยหลังสหรัฐฯ ไม่กี่วัน อียูก็ประกาศเปิดการสอบสวนสินค้านำเข้าจากจีนฐานต้องสงสัยว่ารัฐบาลจีนทุ่มตลาดและให้เงินอุดหนุนอีกครั้ง โดยคราวนี้สอบสวนแผ่นเหล็กเคลือบดีบุก แต่การสอบสวนที่ลือลั่นมากที่สุดคือการสอบสวนเพื่อตัดสินใจว่าจะตั้งกำแพงภาษีนำเข้าเป็นการลงโทษดีหรือไม่กับรถอีวีจากจีน ซึ่งอียูสงสัยว่าได้รับเงินอุดหนุนจากปักกิ่ง ทำให้ราคารถถูกกว่ารถที่ยุโรปผลิต การสอบสวนนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ย.2566 แม้ฝ่ายจีนพยายามชี้แจงหลายครั้งว่า ไม่มีการให้เงินอุดหนุนมากมายอย่างที่อียูกล่าวหาก็ตาม
สำหรับญี่ปุ่นและไต้หวันมีปัญหาตึงเครียดกับจีน โดยจีนไม่พอใจที่ญี่ปุ่นกระชับด้านความมั่นคงกับสหรัฐฯ และแสวงหา "กลุ่มที่มีลักษณะคล้ายองค์นาโต" ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ส่วนไต้หวัน ซึ่งจีนถือเป็นมณฑลหนึ่งของตนนั้น นายวิลเลียม ไล่ ชิงเต๋อ จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ซึ่งสนับสนุนเอกราชไต้หวัน จะทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ในวันจันทร์ (20 พ.ค.)
ก่อนหน้าการประกาศสอบสวนไม่ถึง 24 ชั่วโมง อี้ว์ยวนถันเทียน ซึ่งเป็นช่องทางสื่อสารในโลกออนไลนในเครือซีซีทีวีของทางการจีน โพสต์เตือนว่า รัฐบาลจีนมีมาตรการอยู่ในมือมากพอสำหรับตอบโต้การสอบสวนแบบ “สองมาตรฐาน” ของอียู ที่ทำกับอุตสาหกรรมจีน และถ้าขืนยังทำกับจีนแบบนี้ต่อไปก็พร้อมจะแก้เผ็ดเสมอ โดยโพสต์ระบุว่าภาคไวน์ ผลิตภัณฑ์นม และเครื่องบินของยุโรปอาจเป็นเป้าหมาย
หอการค้าจีนประจำอียูระบุว่า คำเตือนของอี้ว์ยวนถันเทียนนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
ด้านอียูระบุว่าจะศึกษาเนื้อหาการสอบสวนของจีนอย่างใกล้ชิดก่อนจะตัดสินใจดำเนินการขั้นต่อไปอย่างไร โดยอียูหวังว่า การสอบสวนของจีนจะกระทำไปตามกฎระเบียบและพันธกรณีขององค์การการค้าโลก
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ / รอยเตอร์