อากาศยานไร้คนขับ (UAV) ถูกนำมาใช้ในการปลูกป่าบนเนินเขาที่ลาดชัน ในมณฑลส่านซี
ที่อำเภอเจียเซี่ยน เมืองอวี๋หลิน มณฑลส่านซี ใกล้กับแม่น้ำเหลือง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ใช้โดรนลำเลียงต้นกล้าไปยังพื้นที่ห่างไกลบนเขา เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว
โดยการปลูกต้นกล้าแบบเดิมจะต้องใช้คนงานแบกต้นกล้าขึ้นไปบนภูเขา ซึ่งใช้เวลาเดินป่าประมาณครึ่งชั่วโมง และมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่จึงหันมาใช้โดรนในการลำเลียงต้นกล้าไปยังเนินเขาที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตรแทน ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำต้นกล้าไปปลูกโดยทันที
ทางการเจียเซี่ยนใช้โดรน 12 ลำ ในภารกิจปลูกป่าอย่างมีประสิทธิภาพ Ren Feilin วิศวกรป่าไม้อาวุโส กรมป่าไม้และทุ่งหญ้า อำเภอเจียเซี่ยน ระบุว่า เทคโนโลยีการปลูกป่าด้วยโดรนช่วยลดความเสียหายของต้นกล้าในการขนส่ง เดิมมีต้นกล้าที่อยู่รอดเพียงร้อยละ 50-60 แต่ตอนนี้อัตราการรอดของต้นกล้าที่ขนส่งด้วยโดรนมีมากกว่าร้อยละ 85
ขณะนี้มีอำเภอ 8 อำเภอในเมืองอวี้หลิน ที่นำโดรนกว่า 70 ลำ มาใช้ในการปลูกต้นกล้ากว่า 1.7 ล้านต้น บนพื้นที่เนินเขาที่เป็นหินและดินเสื่อมสภาพ Zhang Peiqian รองผู้อำนวยการสํานักป่าไม้และทุ่งหญ้า เมืองอวี้หลิน กล่าวว่า การใช้โดรนในการขนส่งต้นกล้า ไม่เพียงแต่ลดความเสี่ยงของคนงาน และลดความเสียหายต่อต้นกล้าเท่านั้น หากยังช่วยลดต้นทุนอีกด้วย โดยค่าขนส่งต้นกล้าถูกกว่าเดิม 2-3 หยวน หรือราว 10-15 บาท
ดังนั้น การใช้โดรนในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวจึงตอบโจทย์ในการให้ผลกำไรทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ
ที่มา : China Media Group