xs
xsm
sm
md
lg

ส่วนลดกับผลกำไร โจทย์ใหญ่ของ Alibaba และ JD.com

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้คนขี่สกูตเตอร์ผ่านโฆษณาของ JD.com ที่โปรโมตเทศกาลชอปปิ้งวันคนโสดในกรุงปักกิ่งของจีนเมื่อวันที่ 26 ต.ค.2566 - ภาพ : รอยเตอร์
รายงานผลประกอบการของอาลีบาบาและเจดีดอตคอมจะเป็นเครื่องชี้วัดอารมณ์ของผู้บริโภคในจีน ซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก และเจ้าของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่แดนมังกรทั้งสองอาจต้องประเมินการดำเนินกลยุทธ์เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการลดแลกแจกแถมกับผลกำไรของบริษัท

อาลีบาบาจะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2567 ในวันอังคาร (14 พ.ค.) ส่วนเจดีดอตคอม (JD.com)ในวันพฤหัสฯ (16 พ.ค.)
 
การเผชิญกับการแข่งขันรุนแรงจากแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าราคาถูก เช่น พินตัวตัว (Pinduoduo) ของบริษัทพีดีดี โฮลดิงส์ และโต่วอิน (Douyin) ของบริษัทไบต์แดนซ์ ทำให้บริษัททั้งสองหันมาเน้นการให้ส่วนลดและการเปิดพื้นที่สำหรับสินค้าราคาถูกมากขึ้น เพื่อรักษาส่วนแบ่งรายได้ในตลาดให้บริการซื้อขายสินค้าผ่านระบบอีคอมเมิร์ซของจีน ซึ่งครองรวมกันราวร้อยละ 69 ตามการประเมินของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งสิงคโปร์ (DBS)

 
จากเดิมที่อาลีบาบาพยายามยกระดับแพลตฟอร์มทีมอลล์ (Tmall) ด้วยการขายผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมให้มากขึ้น เช่น ไอโฟนของแอปเปิล เครื่องสำอางของเอสเต ลอเดอร์ และเครื่องประดับของทิฟฟานีแอนด์โค เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มเจดีดอตคอม

แคที ไหล นักวิเคราะห์ของเอสแอนด์พีโกลบอล ชี้ว่า ตราบใดที่ผู้บริโภคจีนยังคงระมัดระวังการใช้จ่ายเป็นสำคัญท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจซบเซา กลยุทธ์ใหม่ที่นำมาใช้น่าจะทำให้รายได้บริษัทชะลอการเติบโตและอัตรากำไรลดลง โดยขณะนี้ทั้งอาลีบาบา และเจดีดอตคอมยังรุกเข้าไปยังสินค้าไม่มียี่ห้อ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของพินตัวตัวอีกด้วย

 
ในปีที่แล้ว แพลตฟอร์มอาลีบาบา และเจดีดอตคอมประกาศให้เงินหลายพันล้านหยวนเพื่ออุดหนุนการให้ส่วนลดและการแจกคูปองสำหรับกิจกรรมการขายตามปกติ อย่างไรก็ตาม รายได้ของแพลตฟอร์มเถาเป่า และทีมอลล์กรุ๊ปในไตรมาสที่ 3 และที่ 4 ของปี 2566 ซึ่งรวมเทศกาลการขายสินค้ายิ่งใหญ่สุดของปีอย่างวันคนโสดเข้าไปด้วยนั้น เพิ่มขึ้นเพียง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ส่วนแพลตฟอร์มเจดีดอตคอมเพิ่มขึ้นเพียง 3.6%


สำหรับไตรมาสแรกปีนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า รายได้ทั้งหมดของอาลีบาบาซึ่ง 65% มาจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศจะเพิ่มขึ้น 5.3% ในขณะที่เจดีดอตคอมจะเพิ่มขึ้นประมาณ 6%

 
แตกต่างกับบริษัทพีดีดี โฮลดิงส์ ซึ่งมีรายได้โต 123% ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566 โดยรวมรายได้จากพินตัวตัว และ Temu แพลตฟอร์มระหว่างประเทศที่กำลังมาแรง ส่วนโต่วอิน ซึ่งปกติไม่เปิดเผยข้อมูลการขายนั้น คาดว่าโต 60% ในปี 2566 ตามการคาดการณ์ของบริษัทวิจัย eMarketer


บริษัทอีคอมเมิร์ซของจีนกำลังเข้าสู่ช่วงกระหน่ำลดราคาครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยมหกรรมขายสินค้ากลางปีที่มีชื่อว่า 618 ซึ่งตั้งตามวันก่อตั้งเจดีดอตคอม ในวันที่ 18 มิ.ย. จะเริ่มในปลายเดือน พ.ค. และมีการขายยาวนานหลายสัปดาห์ โดยขณะนี้ แบรนด์ต่างๆ หันมาขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ไลฟ์สตรีมมิ่ง เช่น โต่วอิน กันมากขึ้น ซึ่งเป็นการแข่งขันที่อาลีบาบา และเจดีดอตคอมจะต้องหาทางแก้ไข


แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า การลดราคาอย่างต่อเนื่องไม่น่าจะใช่กลยุทธ์ที่ดีในระยะยาว เพราะจะทำลายผลกำไรของแบรนด์ต่างๆ เช่น ผู้ผลิตเครื่องสำอางลอรีอัล และเอสเต ลอเดอร์ จนอาจมาถึงจุดที่แบรนด์เหล่านี้ตระหนักว่าทำเงินไม่ได้บนแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าราคาถูกอีกแล้ว

 
อย่างไรก็ตาม ทางด้านเถาเป่า และทีมอลล์กรุ๊ปของอาลีบาบาแถลงยืนยันว่า ยังคงดำเนินกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับผู้บริโภคเป็นอันดับแรก ด้วยการจัดหาผลิตภัณฑ์ในราคาที่แข่งขันได้ และบริการที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกระดับ

ที่มา : รอยเตอร์



กำลังโหลดความคิดเห็น