ระหว่างการเยือนยุโรป ผู้นำจีนไม่สามารถโน้มน้าวให้ผู้บริหารสหภาพยุโรป (อียู) ลดจุดยืนแข็งกร้าวต่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (อีวี) จากจีน แต่เขาประสบความสำเร็จในการเยือนชาติแถบยุโรปตะวันออก
ภายหลังเสร็จสิ้นการเยือนฝรั่งเศส และเซอร์เบีย ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนเดินทางต่อมายังฮังการีเมื่อวันพุธ (8 พ.ค.) ชาติสุดท้ายของการเยือนยุโรปครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยมีกำหนดลงนามข้อตกลงหลายฉบับร่วมกับรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี วิกเตอร์ ออร์บาน ในกรุงบูดาเปสต์ ครอบคลุมโครงการก่อสร้างทางรถไฟ ถนน และพลังงาน
ในบทความของผู้นำจีน ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์แมคยาร์ เนมเซต (Magyar Nemzet) สื่อของพรรครัฐบาลฮังการี สี จิ้นผิง ระบุว่า ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับภูมิภาคนี้เป็นการก้าวไปสู่เสถียรภาพและการพัฒนาในระดับโลก นอกจากนั้น ฝั่งตะวันออกของยุโรปยังมีส่วนช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับยุโรปอีกด้วย
การแสดงความเห็นของผู้นำจีนมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างรัฐบาลจีนกับอียูทวีความตึงเครียด โดยบรรดาผู้นำชาติยุโรปตะวันตกกล่าวหา รัฐบาลจีนส่งสินค้าราคาถูกเข้ามาทุ่มตลาดยุโรป ซึ่งคุกคามการจ้างงาน อีกทั้งยังให้การสนับสนุนรัสเซียในสงครามยูเครน
ทั้งนี้ ฮังการีซึ่งเป็นสมาชิกอียู กำลังต้องการแหล่งเงินสำหรับโครงการลงทุน โดยรัฐบาลนายกรัฐมนตรีออร์บานสามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากจีนได้ราว 10,000 ล้านยูโรในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมรถอีวี โดยบีวายดี บริษัทผู้ผลิตอีวียักษ์ใหญ่สัญชาติจีน เลือกฮังการีเป็นสถานที่ก่อสร้างโรงงานผลิตรถในยุโรปแห่งแรกของบริษัท นอกจากนั้น ฮังการียังเป็นศูนย์กลางการผลิตแบตเตอรี่สำหรับอีวี โดยขณะนี้บริษัท คอนเทมโพรารี แอมเพเร็กซ์ เทคโนโลยี จำกัด (Contemporary Amperex Technology Co. Ltd) ของจีน กำลังก่อสร้างโรงงานมูลค่า 7,300 ล้านยูโรในเมืองเดเบรเซนทางภาคตะวันออก
สำหรับตัวนายกรัฐมนตรีออร์บานเองนั้น เขามักปะทะกับสหรัฐอเมริกา และอียูในเรื่องหลักนิติธรรม ตลอดจนความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียและจีน และไม่ยอมทำตามแรงกดดันจากตะวันตก ที่ต้องการให้ฮังการีลดความใกล้ชิดกับปักกิ่ง และร่วมมือกับตะวันตกในด้านการค้าและสิทธิมนุษยชนมากขึ้น
ระหว่างการเยือนกรุงเบลเกรดของเซอร์เบีย ผู้นำจีนได้ลงนามข้อตกลงกับประธานาธิบดี อาเล็กซานดาร์ วูชิช เพื่อส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์สำหรับ “ชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันในยุคใหม่” โดยจีนสนับสนุนความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการเมืองกับชาติใดก็ตามที่อ้าแขนต้อนรับการค้าการลงทุนจากจีน
ด้านเซอร์เบียจะส่งเสริมการส่งออกไปจีนภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรี และคาดว่าการสนับสนุนในส่วนที่มาจากจีนสำหรับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในเซอร์เบียจะมีมูลค่าสูงถึง 27,000 ล้านดอลลาร์
นอกจากนั้น เซอร์เบียและจีนยังประกาศสนับสนุนบูรณภาพแห่งดินแดนของแต่ละฝ่าย โดยนายวูชิช หมายถึงการอ้างสิทธิของเซอร์เบียเหนือโคโซโว อดีตจังหวัดที่แยกเป็นอิสระฝ่ายเดียวในปี 2551 และนโยบายของปักกิ่งต่อไต้หวัน
นายวูชิช ยังยกย่องมุมมองการวิเคราะห์ของสี จิ้นผิง ต่อสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกว่า เป็นการมองในเชิงลึกอย่างที่ไม่เคยได้ฟังจากใครมาก่อน
ทั้งนี้ ในการหารือกับนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของอียู ระหว่างการเยือนฝรั่งเศสเป็นชาติแรกเมื่อวันจันทร์ (6 พ.ค.) นั้น นางฟอน เดอร์ เลเยน ระบุว่า อียูเตรียมใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อปกป้องเศรษฐกิจของตน หากจีนไม่ส่งสินค้าเข้าตลาดอียูอย่างเป็นธรรม โดยอียูจะพิจารณาเก็บภาษีนำเข้ารถอีวี หากผลการสอบสวนที่กำลังดำเนินอยู่ขณะนี้พบว่า รัฐบาลจีนให้เงินอุดหนุนการผลิตจนทำให้รถอีวีจีนมีราคาถูกกว่ารถอีวีที่ผลิตในยุโรป
ที่มา : บลูมเบิร์ก