สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนเริ่มการเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ (5 พ.ค.) โดยในทันทีที่ผู้นำจีนและนาง เผิง ลี่หยวน ภรรยาก้าวลงจากเครื่องบิน นายกาบรีแยล อาตาล นายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศส ซึ่งนำคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลมารอต้อนรับ ได้เดินเข้าไปกล่าวสวัสดีด้วยภาษาจีนกลางว่า “หนีห่าว” ท่ามกลางธงชาติฝรั่งเศสและจีน ที่โบกสะบัดและพรมแดงที่ปูต้อนรับ
ซินหัวระบุว่า การจัดพิธีการทูตดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ฝ่ายฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับการมาเยือนครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง
สี และนายอาตาลพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ขณะเดินไปยังรถลิมูซีนที่จอดรอ โดยนายอาตาล วัย 34 ปี บอกอีกฝ่ายว่า เขาเคยไปเยือนจีนมาแล้วครั้งหนึ่งตอนเป็น ส.ส.
“ผมเรียนภาษาจีนมาหนึ่งปี” นายกรัฐมนตรีหนุ่มกล่าว
“คุณพูดดีนี่ครับ ได้มาตรฐานมาก จีนยินดีต้อนรับการมาเยือน” สีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ผู้นำจีนเองยังชื่นชอบวัฒนธรรมฝรั่งเศส โดยเริ่มสนใจประวัติศาสตร์ ปรัชญา วรรณคดี และศิลปะฝรั่งเศสตั้งแต่สมัยยังเยาว์วัย
“ฝรั่งเศสมีเสน่ห์เป็นพิเศษสำหรับพวกเราชาวจีน” ตอนหนึ่งในสุนทรพจน์ของสี ซึ่งเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรและตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ เลอ ฟิกาโร เมื่อวันอาทิตย์ (5 พ.ค.)
ในสุนทรพจน์ผู้นำจีนยังยกย่องความสัมพันธ์ตลอด 60 ปีที่ผ่านมาระหว่างจีนกับฝรั่งเศส ว่า อยู่ในระดับแนวหน้าของความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับชาติตะวันตกและยังเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับประชาคมโลกในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีระบบแตกต่างกันแต่ได้รับประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย
สีมาเยือนฝรั่งเศสครั้งนี้นับเป็นการเยือนอย่างเป็นทางการครั้งที่ 3 ซึ่งยังตรงกับวาระโอกาสสำคัญที่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างชาติทั้งสองดำเนินมาครบ 60 ปี นอกจากนั้น ฝรั่งเศสยังเป็นชาติแรกในการเยือนยุโรปในรอบเกือบ 5 ปีของเขา ซึ่งอีก 2 ชาติที่จะไปเยือนคือเซอร์เบีย และฮังการี
ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี นี่เป็นการเยือนยุโรปเพื่อกระชับความสัมพันธ์ในช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดทั่วโลกและชาติยุโรปก็มีความเห็นแตกแยกกันในเรื่องวิธีจัดการกับอำนาจที่เพิ่มขึ้นของปักกิ่งและการแข่งขันระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน โดยยุโรปและจีนมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้น ซึ่งมีการค้าระหว่างกันอยู่ที่ประมาณ 2,300 ล้านยูโรต่อวัน ขณะที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสเองต้องการให้ยุโรปมีความเป็นอิสระด้านเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์จากมหาอำนาจอื่นๆ ในโลกมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การสูญเสียตลาดให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของจีนทำให้มีแนวโน้มว่าสหภาพยุโรป (อียู) อาจจัดเก็บภาษีนำเข้ารถจากจีน ด้านเซอร์เบีย และฮังการี ถูกมองว่าเป็นมิตรต่อจีนและใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย อีกทั้งเป็นชาติผู้เปิดรับการลงทุนจำนวนมากจากจีน
ประธานาธิบดีมาครง มีกำหนดให้การต้อนรับผู้นำจีนอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (6 พ.ค.) โดยเขากับนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปจะหารือกับสี เพื่อผลักดันนโยบายการค้าที่เป็นธรรมยิ่งขึ้น และขอให้จีนช่วยโน้มน้าวให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน
ด้านสหรัฐฯ กำลังจับตาสี จิ้นผิงมาเยือนยุโรปว่า จะส่งผลให้ยุโรปลดการสนับสนุนสหรัฐฯ หรือไม่