ตามรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเมื่อวันอังคาร (16 เม.ย.) ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.2567 ของจีนมีอัตราการเติบโตร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2566 ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ประมาณร้อยละ 4.8 และมีอัตราการเติบโตร้อยละ 1.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว
นอกจากนั้น ผลผลิตอุตสาหกรรมในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่แล้ว ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.7% การลงทุนคงที่ (Fixed investment) เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5%
ตัวเลขน่าประทับใจในไตรมาสแรกนี้ได้รับแรงหนุนจากการเติบโตที่แข็งแกร่งในภาคการส่งออกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมไฮเทค การใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน รวมถึงนโยบายของรัฐบาล ซึ่งช่วยส่งเสริมการลงทุน
นักวิเคราะห์จีนระบุว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไตรมาสแรกเป็นสิ่งยืนยันว่า เศรษฐกิจจีนสามารถพลิกฟื้นได้อย่างรวดเร็ว หลังจากซบเซาในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด นอกจากนั้น ตลาดผู้บริโภคและสินค้าภาคอุตสาหกรรมของจีนยังมีความน่าดึงดูดใจ ซึ่งขัดแย้งกับการรายงานของสื่อตะวันตกบางสำนักที่ระบุว่า เศรษฐกิจจีนมาถึงจุดสูงสุดแล้ว
การเริ่มต้นปีอย่างแข็งแกร่งนี้เป็นการปูทางไปสู่เป้าหมายการเติบโตตลอดทั้งปี 2567 ที่ราวร้อยละ 5 ดังที่รัฐบาลตั้งเป้า โดยเศรษฐกิจจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ยังคงแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาชาติเศรษฐกิจใหญ่ๆ และยังคงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดนี้มีขึ้นไม่กี่วัน หลังจากที่จีนรายงานตัวเลขการนำเข้าและส่งออกที่ลดลงในเดือน มี.ค. รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอลงตามแรงกดดันจากภาวะเงินฝืดนานหลายเดือน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ของอ็อกซ์ฟอร์ดอิโคโนมิกส์ชี้ว่า ปัจจัยต่างๆ เช่น การคลี่คลายของสินค้าคงคลังส่วนเกิน การใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่กลับสู่ปกติหลังวันหยุดเทศกาล ตลอดจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างระมัดระวัง อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตในไตรมาสที่ 2 ได้
ที่มา : โกลบอลไทมส์/เอพี