เวลานี้แผงโซลาร์เซลล์กลายเป็นสินค้าที่มีราคาถูกจนผู้คนในเนเธอร์แลนด์และเยอรมนีนำมาใช้สร้างรั้วสวน ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์
สาเหตุที่ทำให้แผงโซลาร์เซลล์ราคาดิ่งร่วง ก็เนื่องจากบริษัทในจีนผลิตออกมาล้นตลาดโลก โดยร้อยละ 80 ของแผงโซลาร์เซลล์ที่ทะลักตลาดนั้นผลิตบนแดนมังกร
แผงโซลาร์เซลล์โดยทั่วไปจะติดตั้งกันบนหลังคา ซึ่งสามารถจับแสงแดดได้มากที่สุด แต่ด้วยความที่ซื้อได้ในราคาย่อมเยา ชาวยุโรปเหล่านี้จึงนำมาเรียงเป็นรั้วเสียเลย ซึ่งยังประหยัดเงินในกระเป๋าอีกต่างหาก เพราะการติดตั้งบนหลังคาจะเสียค่าแรงและค่าใช้จ่ายอื่นๆ สูง จึงนับเป็นการใช้เทคโนโลยีสีเขียวราคาถูกอีกทางเลือกหนึ่ง ผู้คนในอังกฤษ อเมริกาเหนือ และออสเตรเลียก็เริ่มทำตามบ้างแล้ว
“ทำไมต้องก่อรั้วล่ะ ในเมื่อคุณสามารถวางแผงโซลาร์เซลล์ได้จำนวนมาก ถึงจะวางแนวไม่ตรงกับดวงอาทิตย์ก็เถอะ” นายมาร์ติน บราว หัวหน้าฝ่ายวิจัยสภาพภูมิอากาศของบีเอ็นพี พารีบาส์ ระบุกับไฟแนนเชียลไทมส์
อุปทานแผงโซลาร์เซลล์ทั่วโลกจะสูงถึง 1,100 กิกะวัตต์ภายในสิ้นปีนี้ หรือมากกว่าการคาดการณ์ความต้องการในปัจจุบันถึง 3 เท่า โดยการผลิตที่มากเกินไปในจีนกำลังผลักดันแนวโน้มดังกล่าว ตามรายงานขององค์การพลังงานระหว่างประเทศเมื่อเดือน ม.ค.
ราคาแผงโซลาร์เซลล์ในตลาดสปอตได้ปรับลดลงมาแล้วครึ่งหนึ่งในปี 2566 และน่าจะปรับลดลงอีกร้อยละ 40 ภายในปี 2571 รายงานระบุ
การยึดตลาดแผงโซลาร์เซลล์ของจีนทำให้เกิดภาวะอุปทานล้นตลาดในขณะนี้ ซึ่งหมายความว่าผู้ผลิตที่อื่น เช่น สหรัฐฯ และยุโรปไม่สามารถแข่งขันได้
ผู้ผลิตของจีนเองรับรู้ถึงความร้อนแรงจากภาวะอุปทานล้นตลาดเช่นกัน โดยลองกิ กรีน เอนเนอร์จี เทคโนโลยี (Longi Green Energy Technology) บริษัทผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ใหญ่สุดในโลกแห่งหนึ่งประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่า กำลังปลดคนงานหลายพันคน เนื่องจากปัญหาภาวะอุปทานแผงโซลาร์เซลล์ล้นตลาดและราคาที่ตกต่ำ ซึ่งทำให้ผู้ผลิตของจีนต้องล่าถอย
ทั้งนี้ พลังงานแสงอาทิตย์ ยานยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เป็นอุตสาหกรรมใหม่ 3 ด้านที่รัฐบาลจีนกำลังสนับสนุน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ที่มา : บิสซิเนสอินไซเดอร์