หลังจากซัมมิตที่นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนพ.ย. ปีที่แล้ว ประธานาธิบดี โจ ไบเดนแห่งสหรัฐอเมริกาและประธานาธิบดี สี จิ้นผิงแห่งจีนก็เพิ่งมีโอกาสได้พูดคุยกันโดยตรงทางโทรศัพท์เป็นครั้งแรก
โกลบอลไทมส์ สื่อทางการแดนมังกรระบุว่า ประธานาธิบดีสีสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีไบเดนเมื่อวันอังคาร ( 2 เม.ย.) ซึ่งเป็นไปตามคำขอของผู้นำสหรัฐฯ มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาและเจาะลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และในประเด็นที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ไบเดนพยายามหาทางผ่อนคลายความตึงเครียดที่เกิดขึ้นจากประเด็นทะเลจีนใต้และพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของผู้นำไต้หวัน
ทำเนียบขาวแถลงว่า ในการพูดคุยกันครั้งนี้ไบเดนเน้นย้ำว่า การรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง รวมถึงการรักษาหลักนิติธรรมและเสรีภาพการเดินเรือในทะเลจีนใต้
ด้านสี จิ้นผิงบอกอีกฝ่ายว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เริ่มนิ่งและคงที่แล้ว แต่ก็เตือนว่า อาจไถลไปสู่ความขัดแย้ง หรือการเผชิญหน้ากันอีกได้ ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัวสื่อของทางการจีน
สี จิ้นผิงยังเตือนไบเดน กรณีสหรัฐฯ พยายามปิดกั้นเทคโนโลยีบางอย่างของสหรัฐฯ รวมถึงชิปเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง ไม่ให้ส่งไปจำหน่ายในจีนได้นั้นว่า สหรัฐฯ มิได้กำลังลดความเสี่ยง ( de-risking ) แต่กำลังสร้างความเสี่ยง ( creating risks) ต่างหาก ด้วยการบดขยี้การค้าและการพัฒนาเทคโนโลยีของจีน นอกจากนั้น ยังเพิ่มบริษัทจีนเข้าไปในบัญชีการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ อีกด้วย
แต่ไบเดนตอบว่า สหรัฐฯ จะยังคงดำเนินการที่จำเป็นต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เทคโนโลยีขั้นสูงของสหรัฐฯ ถูกนำไปใช้บ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ และสหรัฐฯ ก็มิได้มีการจำกัดการค้าการลงทุนมากจนเกินควรอะไร
ส่วนประเด็นแอปพลิเคชั่นติ๊กต็อก ซึ่งเจ้าของคือบริษัทไบต์แดนซ์ของจีนถูกสภาคองเกรสกดดันให้ขายกิจการนั้น โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า ไบเดนได้บอกกับสี จิ้นผิงอย่างชัดเจนว่า นี่ไม่ใช่การสั่งขับติ๊กต็อกออกไปจากสหรัฐฯ แต่สหรัฐฯ ต้องการให้ขายกิจการเพื่อปกป้องความมั่นคงด้านข้อมูลของชาวอเมริกัน
สำหรับประเด็นไต้หวันนั้น พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันของนาย ไล่ ชิงเต๋อในเดือนพ.ค.นี้ จะเป็นบทสอบใหญ่ว่าความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ เริ่มมีความมั่นคงจริงหรือไม่ โดยจีนถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน และนายไล่คือนักแบ่งแยกดินแดนตัวยง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สีจิ้นผิงเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ แปรเปลี่ยนการให้คำมั่นสัญญาของไบเดนที่ว่าจะไม่สนับสนุนการประกาศเอกราชไต้หวันไปสู่การลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนั้น ผู้นำทั้งสองยังมีการพูดคุยกันในประเด็นอื่น ๆ ได้แก่ความกังวลของสหรัฐฯ ที่ว่าจีนอาจให้การสนับสนุนรัสเซียในสงครามยูเครน แนวทางปฏิบัติด้านการค้า การละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง และการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี
นายจอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบขาวบรรยายการพูดคุยกันทางโทรศัพท์นานเกือบ 2 ชั่วโมงนี้ว่า เหมือนคุยกันเรื่องธุรกิจ
การคุยโทรศัพท์กับผู้นำจีนมีขึ้น ก่อนหน้าที่ไบเดนจะมีการประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในสัปดาห์หน้า ซึ่งกำหนดจัดขึ้น หลังเกิดเหตุเรือยามชายฝั่งของจีนฉีดน้ำแรงดันสูงขับไล่เรือขนส่งเสบียงของฟิลิปปินส์ใกล้แนวปะการังข้อพิพาท โดยนางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลัง จะเยือนจีนในสัปดาห์นี้ จากนั้น จะเป็นคิวของนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ที่มา : รอยเตอร์ / โกลบอลไทมส์