xs
xsm
sm
md
lg

แผ่นดินไหวครั้งใหญ่สุดในรอบ 25 ปีเขย่าการผลิตชิปไต้หวัน (มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


โลโก้ของบริษัทไต้หวันเซมิคอนดักเตอร์แมนูแฟกเจอริง (Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. - TSMC ) - ภาพ : รอยเตอร์
บริษัทไต้หวันเซมิคอนดักเตอร์แมนูแฟกเจอริง ( TSMC ) ผู้ผลิตชิปขั้นสูงตามสัญญาว่าจ้างรายใหญ่ที่สุดในโลก ต้องย้ายสายการผลิต หนีแผ่นดินไหวขนาด 7.3  ซึ่งเกิดขึ้นบนเกาะไต้หวันเมื่อเช้าวันพุธ ( 3 เม.ย.) ส่งผลให้การผลิตชิปเกิดความไม่แน่นอนในทันที
 
TSMC เป็นผู้รับจ้างผลิตชิปรายสำคัญให้กับบริษัทแอปเปิล และเอ็นวิเดีย ทางบริษัทระบุว่า ระบบความปลอดภัยของ TSMC ยังใช้งานได้ตามปกติ หลังจากเกิดแผ่นดินไหว แต่เพื่อให้มั่นใจว่าบุคลากรมีความปลอดภัย จึงได้อพยพพนักงานออกจากโรงงานในบางพื้นที่ โดยกำลังมีการประเมินผลกระทบอยู่ในขณะนี้


ด้านยูไนเต็ดไมโครอิเล็กทรอนิกส์คอร์เปอเรชั่น ( UMC) บริษัทคู่แข่งที่มีความสูสีกันมากที่สุดแถลงว่า ได้ระงับการผลิตที่โรงงานบางแห่งและมีการอพยพพนักงานบางส่วนจากฮับการผลิตในเมืองซินจู๋และไท่หนาน

เซมิคอนดักเตอร์ ที่นำมาประกอบในอุปกรณ์ ตั้งแต่ไอโฟนไปจนถึงรถยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอนั้น ส่วนใหญ่ราวร้อยละ 80-90 ผลิตโดยบริษัทของไต้หวัน ซึ่งรวมถึงบริษัทเอเอสอี เทคโนโลยีโฮลดิ้ง บริษัทเหล่านี้มีโรงงานตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน แม้เป็นแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยที่สุดก็ตาม โดยการสั่นสะเทือนเพียงครั้งเดียวสามารถทำลายเซมิคอนดักเตอร์ที่ผลิตขึ้นอย่างแม่นยำทั้งชุดได้ เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้หุ้นของ TSMC ร่วงประมาณร้อยละ 1.5ในการซื้อขายช่วงแรก หุ้นของUMC ร่วง แต่ไม่ถึงร้อยละ 1

 
มีการพูดกันมานานแล้วในหมู่ผู้บริหารอุตสาหกรรมและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลว่า การผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง ซึ่งกระจุกตัวอยู่บนเกาะไต้หวันนับเป็นเรื่องจากอันตราย เนื่องจากไต้หวัน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับจุดบรรจบของแผ่นเปลือกโลก มักเกิดแผ่นดินไหวอยู่เป็นประจำ นอกจากนั้น ไต้หวันยังเป็นจุดที่อาจเกิดการแตกหักทางการทหาร โดยการขาดแคลนชิปทั่วโลกในช่วงที่โรคโควิด-19 ระบาดเป็นหลักฐานยืนยันข้อวิตกกังวลเหล่านี้

 
เจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกาจึงเรียกร้องให้บริษัทอเมริกันและไต้หวันรวมถึง TSMC กระจายโรงงานผลิตไปยังประเทศอื่น ๆ โดยขณะนี้ TSMC กำลังขยายที่ตั้งโรงงานในญี่ปุ่น ส่วนฐานการผลิตในสหรัฐฯยังต้องใช้เวลากว่าจะเดินเครื่องได้เต็มที่ และบริษัทอเมริกันบางราย เช่น ไมครอนเทคโนโลยีก็ยังคงมีโรงงานผลิตใหญ่อยู่ที่ไต้หวันในปัจจุบัน

 
ที่มา : บลูมเบิร์ก





กำลังโหลดความคิดเห็น