ขบวนการอาชญากรรมจัดตั้ง ที่มีแก๊งคอลเซนเตอร์ และการค้ามนุษย์เป็นหัวหอกในการขับดันระหว่างช่วงโรคระบาดโควิด-19 ขยายพื้นที่ปฏิบัติการจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลายเป็นเครือข่ายทั่วโลก ทำเงินได้ 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ องค์การตำรวจสากลเผย
“ขบวนการอาชญากรรมจัดตั้งพวกนี้ ขับเคลื่อนโดยไอ้โม่งในโลกออนไลน์ ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปแบบธุรกิจใหม่ และเร่งสปีดโดยโรคโควิด ขณะนี้ปฏิบัติการของขบวนการอาชญากรรมนี้กำลังขยายขนาดใหญ่อย่างที่จินตนาการไม่ถึงเลยในสิบปีที่แล้ว” เจอร์เกน สต็อก เลขาธิการองค์การตำรวจสากล หรืออินเตอร์โปล กล่าวที่องค์กรความร่วมมือตำรวจสากลในสิงคโปร์ เมื่อวันพุธ(27 มี.ค.)
“ภัยคุกคามอาชญากรรมที่เริ่มต้นปฏิบัติการระดับภูมิภาคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลายเป็นวิกฤตการค้ามนุษย์ระดับโลก โดยมีผู้ตกเป็นเหยื่อนับล้านๆคน”
ศูนย์หลอกลวงทางไซเบอร์ใหม่ ซึ่งได้สต๊าฟมาจากแก๊งค้ามนุษย์ ได้ช่วยกลุ่มอาชญากรรมจัดตั้งนี้ ขยายแหล่งรายได้ใหม่จากการลักลอบค้ายาเสพติด โดยธุรกิจลักลอบค้ายาเสพติดทำรายได้ให้กับแก๊งอาชญากรรม เป็นสัดส่วน 40 เปอร์เซ็นต์ ถึง 70 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ ขบวนการอาชญากรรม ยังใช้เส้นทางค้ายาเสพติด ลักลอบค้ามนุษย์ อาวุธ สินค้าที่ปล้นขโมยมา เช่น รถยนต์
เงินที่ได้จากการฉ้อโกงสารพัดช่องทางนี้ ประมาณ 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ถึง 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ไหลเวียนในระบบการเงินโลกในแต่ละปี โดยแก๊งอาชญากรรมจัดตั้งนี้ทำเงินได้ถึง 50,000 ล้านในแต่ละปี
ในเดือน พ.ย. ตำรวจเมียนมาได้ส่งตัวผู้ต้องสงสัยชาวจีนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรรมหลายพันคนให้กับตำรวจจีน
จากรายกงานข่าวสืบสวนสอบสวนของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่จัดทำเมื่อปีที่แล้ว(2023) ระบุว่า แก๊งอาชญากรรมได้ผุดสาขาที่ต้องสงสัยฯและแหล่งฟอกเงินในประเทศไทย
สต็อก เลขาฯอินเตอร์โปล ยังกล่าวชื่นชมสิงคโปร์ ที่เปิดโปงกรณีฟอกเงินได้สำเร็จเมื่อปีที่แล้ว รวมทั้งการอายัดทรัย์สิน มูลค่าถึง 3,000 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (2,230 ล้านเหรียญสหรัฐ)
ที่มา เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์: Southeast Asia’s cyber scam rings have become a global network, making up to US$3 trillion yearly: Interpol