ถ้าฟิลิปปินส์ไม่เลิกล่วงล้ำอธิปไตยของจีน กระทรวงกลาโหมแดนมังกรสาบาน ไม่เลิกใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดจัดการเช่นกัน ด้านกองทัพปลดแอกประชาชนจีนจัดการฝึกซ้อมรบในทะเลจีนใต้
ต่อกรณีเรือส่งเสบียงของฟิลิปปินส์ถูกหน่วยยามชายฝั่งจีนฉีดน้ำแรงดันสูงขับไล่จนลูกเรือได้รับบาดเจ็บเมื่อวันเสาร์ที่ 23 มี.ค. ขณะพยายามแล่นเข้าไปยังแนวปะการังเหรินอ้ายเจียวของจีน จุดที่ตั้ง “บีอาร์พี เซียร์รา มาเดร” เรือรบเก่าสนิมเขรอะสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาส่งมอบให้กองทัพเรือฟิลิปปินส์
ข้อพิพาททะเลจีนใต้จึงกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้ง กองกำลังเฉพาะกิจในทะเลจีนใต้แห่งแดนตากาล็อกกล่าวหาการกระทำของจีนว่า เป็นภัยคุกคามที่ซ่อนเร้นปกปิดเอาไว้ เรียกเสียงสนับสนุนจากกองเชียร์อย่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นในทันที
อย่างไรก็ตาม พ.อ.พิเศษ อู๋ เฉียน โฆษกระทรวงกลาโหมของจีนแถลงเมื่อวันอาทิตย์ (24 มี.ค.) โดยยืนยันว่า จีนจะไม่ทนนั่งดูอยู่เฉยๆ ให้ฟิลิปปินส์สร้างต่อเติมเรือรบ ซึ่งฟิลิปปินส์เป็นคนลากมาจอดเกยแนวปะการังเหรินอ้ายเจียวอย่างผิดกฎหมาย เพื่อทำให้กลายเป็นสิ่งก่อสร้างถาวรและถ้าฟิลิปปินส์ยังคงกระทำการท้าทายต่อสิ่งที่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับจีนแล้ว จีนจะยังคงดำเนินมาตรการอย่างเด็ดขาดเช่นนี้ต่อไป เพื่อพิทักษ์อธิปไตยเหนือดินแดนและสิทธิทางทะเลของตนเอง
ขณะที่กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคใต้แห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีนแถลงในวันเดียวกันว่า ได้ส่งเรือยกพลขึ้นบก “อู่จื่อซาน” และ “ฉางไป๋ซาน” ไปทำการฝึกการต่อสู้อย่างเข้มข้นหลายหลักสูตรในทะเลจีนใต้เมื่อเร็วๆ นี้ โดยเรือทั้ง 2 ลำเป็น เรืออู่ลำเลียงพลสะเทินน้ำสะเทินบกแบบ 071 (Type 071)
ตามรายงานของซีซีทีวี เรือแบบ 071 มีระวางขับน้ำราว 2 หมื่นตัน สามารถใช้เป็นฐานการโจมตีบนชายหาดด้วยการส่งยานยนต์หุ้มเกราะและเรือโฮเวอร์คราฟต์ลงจอดได้ระยะที่เหมาะสมมากที่สุด
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์เรียกบริเวณแนวปะการังเหรินอ้ายเจียวว่า แนวสันดอนโทมัสที่ 2 โดยอ้างว่า อยู่ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของตน ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเล ด้านจีนอ้างว่าแนวปะการังอยู่ในหมู่เกาะหนันซา มณฑลไห่หนัน (ไหหลำ) ฟิลิปปินส์นำเรือรบดังกล่าวมาจอดที่แนวปะการังนี้เมื่อปี 2542 เพื่อแสดงการอ้างกรรมสิทธิ์ การเผชิญหน้าระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ในบริเวณดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในปีที่แล้ว
กองทัพฟิลิปปินส์ระบุว่า ได้ว่าจ้างเรือพลเรือนให้ไปส่งเสบียงแก่กองทหารฟิลิปปินส์จำนวนเล็กน้อยที่ประจำการบนเรือรบลำนั้น โดยมีเรือของกองทัพเรือ 2 ลำ และเรือยามชายฝั่ง 2 ลำของฟิลิปปินส์คอยคุ้มกัน ด้านยามชายฝั่งจีนโต้ว่า ได้มีการแจ้งเตือนก่อนแล้วว่าอย่าเข้ามา แต่อีกฝ่ายไม่ฟัง
นายติง โต้ว รองผู้อำนวยการสถาบันกฎหมายและนโยบายการเดินเรือ สังกัดสถาบันทะเลจีนใต้ศึกษาของจีนระบุว่า ฟิลิปปินส์ควรแจ้งให้จีนทราบเกี่ยวกับการขนส่งเสบียง หน่วยยามชายฝั่งจีนจะดำเนินการตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม จีนอนุญาตเฉพาะสิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีวิตเท่านั้น มิใช่วัสดุก่อสร้างที่มาซ่อมแซมต่อเติมเรือ หรือการสร้างสถานที่ถาวร
นักสังเกตการณ์ของจีนชี้ว่า การใช้กองกำลังบังคับใช้กฎหมายจากหน่วยยามฝั่ง มิใช่กองทัพเรือในการตอบโต้ย่อมเป็นสิ่งยืนยันว่า จีนอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุของฟิลิปปินส์มาโดยตลอด พร้อมกับเรียกร้องให้ฟิลิปปินส์กลับสู่โต๊ะเจรจา
ที่มา : โกลบอลไทมส์/รอยเตอร์