นายลูก้า เดมีโอ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของเรโนลต์กรุ๊ป บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส เรียกร้องสหภาพยุโรป (อียู) ให้เงินอุดหนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ ในภาวะที่ค่ายผู้ผลิตรถยุโรปกำลังพยายามป้องกันภัยคุกคามจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (อีวี) แดนมังกร
ในจดหมายที่ยื่นต่อบรรดานักการเมืองของยุโรป นายใหญ่ของเรโนลต์ระบุว่า การสร้างระบบนิเวศสำหรับยานยนต์คาร์บอนต่ำให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริงนั้น ชาติยุโรปไม่ควรมามัวสาละวนอยู่กับการกำหนดเส้นตายการเลิกใช้รถยนต์เบนซินและดีเซล หรือการกำหนดโทษปรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามเพียงอย่างเดียว แต่ควรร่วมมือกันนำมาตรการสร้างแรงจูงใจใหม่ๆ มาใช้ ซึ่งรวมถึงการให้เงินอุดหนุนสำหรับผู้บริโภค การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจสีเขียวเพื่อลดหย่อนภาษีและลดราคาพลังงานให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์
ข้อเสนอแนะดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่เรโนลต์และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของยุโรปรายอื่นกำลังตกอยู่ในสภาพแข่งขันสู้รถอีวีจากแดนมังกรซึ่งมีราคาถูกกว่าไม่ได้ ส่งผลให้ยอดขายรถอีวีค่ายยุโรปดิ่งหนัก
ท่ามกลางความวิตกกังวลของค่ายรถยุโรปนี้เอง อียูจึงเริ่มดำเนินการสอบสวนเพื่อต่อต้านการอุดหนุนรถอีวีแดนมังกรในปีที่แล้ว โดยตั้งข้อสงสัยว่าการได้รับเงินอุดหนุนจากภาครัฐทำให้รถอีวีจีนมีราคาถูกกว่าใคร และมีแนวโน้มว่าจะมีการเก็บภาษีนำเข้ารถอีวีจีนในอนาคต
นายเดมีโอ เตือนว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ยุโรปกำลังเผชิญการโจมตีจากรถอีวีแบรนด์จีน เช่น บีวายดี ซึ่งมีฐานในเมืองเซินเจิ้น โดยจีนมีข้อได้เปรียบด้านห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญในการแข่งขัน รวมถึงการควบคุมกำลังการผลิตแบตเตอรี่ทั่วโลกมากถึงร้อยละ 75 การรีไฟนิงวัสดุ (materials refining) มากถึงร้อยละ 90 และเหมืองผลิตโลหะหายากก็มีจีนเป็นผู้ควบคุมมากถึงครึ่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม บอสของเรโนลต์ยอมรับว่า แม้ยุโรปจำเป็นต้องปกป้องตลาดของตนเอง แต่ก็ต้องเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับจีนด้วย
ทั้งนี้ เรโนลต์มีรัฐบาลฝรั่งเศสเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด และบริษัทได้มีการลงนามข้อตกลงหลายฉบับกับจีน ซึ่งรวมถึงการร่วมทุนด้านเครื่องยนต์สันดาปและเครื่องยนต์ไฮบริดกับบริษัทจี๋ลี่
นายเดมีโอ ยังแสดงความวิตกกังวลว่าจะถูกตอบโต้จากรัฐบาลจีน หากรถอีวีแดนมังกรถูกอียูปรับขึ้นภาษีนำเข้าในอนาคต
ที่มา : เดอะเทเลกราฟ