สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนแถลงเมื่อวันจันทร์ ( 18 มี.ค.) ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเข้มข้นของรัฐบาล ส่งผลให้เศรษฐกิจแดนมังกรฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2567 เมื่อดูจากผลผลิตภาคอุตสาหกรรม การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และยอดค้าปลีกที่ล้วนให้ผลลัพธ์ดีเกินคาด
ในเดือนม.ค.และก.พ. ยอดมูลค่าเพิ่มของสถานประกอบการอุตสาหกรรมเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากช่วงเดียวกันของปี 2566 หรือโตเร็วกว่าเดือนธ.ค. ปีที่แล้ว 0.2 จุด
ยอดค้าปลีกอยู่ที่ 8,130,700 ล้านหยวน (ราว 40,653,500 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 ยอดค้าปลีกออนไลน์อยู่ที่ 2,153,500 ล้านหยวน (ราว 10,767,500 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.3
การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 เป็น 2,153,500 ล้านหยวน
นาย เชา เหอผิง นักเศรษฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยปักกิ่งระบุว่า ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจมหภาคที่ดีเกินคาดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ( จีดีพี) ของจีนช่วงไตรมาสแรกของปีนี้จะสูงกว่าร้อยละ 5 และเศรษฐกิจจีนกำลังมาถึงจุดต่ำสุดแล้ว หลังจากการเติบโตของเศรษฐกิจเผชิญแรงกดดันมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ในระหว่างการประชุม “สองสภา” เมื่อต้นเดือนนี้ จีนตั้งเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจอยู่ที่ราวร้อยละ 5 ในปี 2567 ซึ่งเกินความคาดหมายของสถาบันระหว่างประเทศบางแห่ง บ่งชี้ว่า ผู้กำหนดนโยบายแดนมังกรยังคงมั่นใจว่าจะสามารถรักษาเสถียรภาพการเติบโตของเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับที่ 2 ของโลกได้ แม้เผชิญแรงกดดันจากทั้งภายในและภายนอกประเทศก็ตาม
นายเชาเชื่อมั่นว่า จีนสามารถก้าวไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่า ทางการควรส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างเศรษฐกิจโดยรวมต่อไป โดยมุ่งเน้นการพัฒนากำลังผลิต ที่มีคุณภาพใหม่ๆ เช่น อุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ
ทั้งนี้ ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2567 อัตราการว่างงานที่ทำการสำรวจในเขตเมืองของจีนเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 5.3
ที่มา : โกลบอลไทมส์