สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (10 มี.ค.) โดยอ้างบลูมเบิร์กนิวส์ว่า ขณะนี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกากำลังประเมินถึงผลดีผลเสียในการขึ้นบัญชีดำบริษัทเทคโนโลยีของจีนเพิ่มเติม เพื่อพยายามยับยั้งความก้าวหน้าในการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงแดนมังกร
บลูมเบิร์กนิวส์ได้รับข่าวมาจากบุคคลใกล้ชิดกับเรื่องนี้ ซึ่งระบุว่า สำนักอุตสาหกรรมและความมั่นคงของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กำลังพิจารณาเพิ่มบริษัท ฉังซิน เมมโมรี เทคโนโลยีส์ (ChangXin Memory Technologies - CXMT) และบริษัทเทคโนโลยีจีนอีก 5 แห่งเข้าไปในบัญชีดำที่เรียกว่า บัญชีเอนทิตี้ (entity list) บุคคล องค์กร หรือบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีประเภทนี้เนื่องจากสหรัฐฯ เห็นว่ามีข้อน่าวิตกที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ และจะถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ฉังซินระบุในคำแถลงเมื่อวันอาทิตย์ว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านการส่งออกของสหรัฐฯ มาตลอด โดยฉังซินมีความเชี่ยวชาญการผลิตชิปหน่วยความจำดีแรม (DRAM) สำหรับสินค้าที่ผู้บริโภคใช้ในชีวิตประจำวัน มุ่งเน้นการใช้งานของพลเรือนและในเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ
รอยเตอร์รายงานว่า เมื่อปีที่แล้วรัฐบาลสหรัฐฯ เคยประกาศห้ามการส่งออกเทคโนโลยีให้โรงงานใหญ่ของ SMIC บริษัทเซมิคอนดักเตอร์สัญชาติจีน หลังจากโรงงานแห่งนี้สามารถผลิตชิปขั้นสูง ซึ่งเป็นขุมพลังให้สมาร์ทโฟนรุ่นเมต 60 โปร (Mate 60 Pro) ของหัวเว่ย ความพยายามสกัดกั้นจีนครั้งนั้นทำให้ซัปพลายเออร์อย่างน้อยหนึ่งรายคือบริษัทเอ็นเทกริส (Entegris) ของสหรัฐฯ ถูกระงับการจัดส่งวัสดุและชิ้นส่วนสำหรับการผลิตชิปมูลค่าหลายล้านดอลลาร์
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ มีการเคลื่อนไหวอย่างแข็งกร้าวเพื่อยุติการจัดส่งชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขั้นสูงไปยังจีน อันเป็นความพยายามที่จะขัดขวางไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยของตน ซึ่งจีนอาจนำไปใช้เสริมสร้างแสนยานุภาพกองทัพได้